Skip to main content

บทภาวนา 15 บท พระเยซูเจ้าแสดงแก่นักบุญบริด์จิตแห่งสวีเดน

เนื่องจากท่านนักบุญบริด์จิต   ต้องการทราบว่าพระเยซูเจ้าถูกเฆี่ยนกี่ครั้ง วันหนึ่งพระองค์ประจักษ์มาหาเธอตอบว่า

“เราถูกโบยนับได้ 5480 ครั้ง บนร่างกายของเรา ถ้าเธออยากให้เกียรติการตีเหล่านี้บ้าง ขอให้เธอสวดบทข้าแต่พระบิดา 15 ครั้ง วันทามารีอา 15 ครั้ง พร้อมกับบทภาวนาเหล่านี้ที่เราเอามาบอกตลอดปีหนึ่ง เมื่อหมดปีหนึ่งก็คือว่า เธอได้ให้เกียรติแก่บาดแผลของเราทุกแผล”

 

และพระองค์ได้สัญญาแก่คนที่จะสวดครบ 1 ปี ว่าดังนี้ คำสัญญาของพระเยซูเจ้าต่อผู้สวดบทภาวนานี้

1. จงปลดปล่อยวิญญาณญาติพี่น้อง 15 คนที่อยู่ในไฟชำระ

2.จะช่วยวิญาณญาติพี่น้อง 15 คน ให้มั่นคงอยู่ในสถานะพระหรรษทาน

3. จะให้ญาติพี่น้อง 15 คนกลับใจ

4. ใครที่สวดบทภาวนาเหล่านี้ จะบรรลุความครบครันในขั้นแรก

5. ในวัน 15 วันก่อนที่เขาจะตาย เราจะให้เขาได้รับพระกายของเรา เพื่อเขาจะได้ไม่หิวตลอดนิรันดร และยังให้โลหิตของเราแด่เขา เพื่อเขาจะได้ไม่กระหายตลอดนิรันดร

6. ใน 15 วันก่อนตาย   เขาจะเป็นทุกข์ถึงบาปของเขาโดยสมบูรณ์ และรู้ถึงบาปอย่างสมบูรณ์เช่นกัน

7. เราจะวางเครื่องหมายกางเขนแห่งชัยชนะของเราต่อหน้าเขา    จะช่วยเขาในการประจญและปกป้องเขาจากศัตรู

8. ก่อนตายเราจะมาหาเขากับพระแม่ของเรา

9. เราจะต้อนรับวิญญาณนี้อย่างดี และจะพาเขาไปเสวยสุขในสวรรค์

10. เมื่อพาเขาไปแล้ว เราจะให้เขาดื่มธารน้ำทิพย์แห่งความเป็นพระเจ้าของเราซึ่งเป็นพรพิเศษที่เราจะไม่ให้แก่คนที่ไม่สวดบทเหล่านี้

11. ขอให้รู้ไว้ด้วยว่า ใครก็ตามที่อาจตกในสภาพของบาปหนักมา 30 ปีก็ตาม แต่ถ้าเขาสวดบทภาวนานี้อย่างตั้งใจหรือมีความตั้งใจที่จะสวด พระองค์จะช่วยให้เขากลับใจได้

12. เราจะป้องกันเขาจากการประจญที่รุนแรง

13.  เราจะปกป้อง และคุ้มกันเขา  ต่อต้านประสาททั้ง 5

14. ช่วยให้พ้นจากการตายอย่างปัจจุบันทันด่วน

15. วิญญาณของเขาจะหลุดพ้นจากการตายนิรันดร

16. เขาจะได้รับสิ่งที่ขอจากพระเป็นเจ้า    หรือแม่พระ

17. ถ้าเขาดำเนินชีวิตตามใจตัวเองตลอดมา  และหากต้องตายในวันรุ่งขึ้น ชีวิตของเขาจะถูกยืดออกไปอีก

18. ทุกครั้งที่เขาสวดบทเหล่านี้  จะได้รับพระคุณการุณย์ 100วัน

19. เขาได้รับการรับรองว่าจะได้อยู่ร่วมกับบรรดานักร้องของเทวดาในสวรรค์

20. ใครที่สอนบทภาวนานี้แก่คนอื่น จะมีความยินดีและกุศลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะคงอยู่ตลอดนิรันดร

21. ที่ไหนที่บทสวดนี้ถูกสวด หรือจะถูกสวดในอนาคต   พระเป็นเจ้าจะประทับอยู่ที่นั่นพร้อมกับพระหรรษทานของพระองค์


 

บทภาวนาที่ 1

ข้าแต่พระบิดา...วันทามารีอา.....

โอ้ พระเยซูคริสตเจ้า ผู้เป็นความหวานชื่นใจนิรันดรแก่ผู้ที่รักพระองค์ เป็นความยินดีเหนือความยินดีและความปรารถนาใด ๆ เป็นความรอดและความหวังของคนบาปทั้งมวล พระองค์ได้เคยแสดงว่า ไม่ต้องการอะไรใหญ่ยิ่งกว่าการอยู่กับมนุษย์ รักมนุษย์มาก จนถึงกับมารับเป็นมนุษย์ ขอพระองค์ระลึกถึงการทรมานต่าง ๆ ที่พระองค์ได้รับนับแต่วินาทีแรกแห่งการปฏิสนธิ แต่เป็นต้นในช่วงกาลเวลาแห่งมหาทรมานของพระองค์ตามที่ได้ถูกกำหนดและจัดไว้ตั้งแต่นิรันดร ตามโครงการของพระเป็นเจ้า

ข้าแต่พระองค์ โปรดอย่าลืมว่าระหว่างการกินเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้าย พระองค์ได้ล้างเท้าอัครสาวกและประทานพระโลหิตของพระองค์แก่เขาพร้อมกับกล่าวบรรเทาใจเขา  และบอกถึงการทรมานที่จะเป็นมาแก่พระองค์ให้พวกเขาทราบ

โปรดระลึกถึงความปวดร้าวและโศกศัลย์  ที่พระองค์มีในดวงใจ จนต้องระบายออกมาว่า “วิญญาณของเราเศร้าระทมแทบจะขาดใจ”

โปรดระลึกถึงความหวาดกลัว ความกังวลและความเจ็บปวดซึ่งพระองค์ได้รับ  ในพระกายบริสุทธิ์ของพระองค์ก่อนที่จะถูกตรึงกางเขน และหลังจากได้ไปสวดภาวนาถึง 3 ครั้ง  พระวรกายของพระองค์ก็อาบด้วยพระเสโทที่ซึมออกมาเป็นโลหิต  พระองค์ถูกทรยศจากยูดาสศิษย์ที่พระองค์เคยทะนุถนอม ถูกจับโดยประชาชาติที่พระองค์ได้เลือกสรรอุ้มชู ถูกฟ้องโดยพยานเท็จ และถูกตัดสินอย่างอยุติธรรมในวัยหนุ่มของพระองค์และในระหว่างเทศกาลมหาฤกษ์แห่งปัสกา

โปรดจำไว้ว่า เขาปลดพระภูษาของพระองค์ออก และให้พระองค์สวมเสื้อผ้าน่าเย้ยหยัน ใบหน้าและดวงตาบวมแทบจะปิด พระองค์ถูกประจานโดยสวมมงกุฎหนาม มีไม้อ้อเป็นพระขรรค์ ถูกย้ำจากการโบยตีนับไม่ถ้วน จากการด่าว่าหยาบคายนานาชนิดเพื่อระลึกถึงความเจ็บปวดและการทรมานเหล่านี้ ที่พระองค์ได้รับในการทรมานระหว่างก่อนการถูกตรึงและระหว่างแขวนอยู่บนกางเขนนั้น ขอโปรดให้ลูกก่อนตาย ได้เป็นทุกข์ถึงบาปที่แท้จริง และมีการสารภาพบาปที่จริงใจและครบถ้วนพร้อมกับการใช้โทษบาปที่สาสม และการยกบาปทั้งสิ้นของลูกด้วย อาแมน


 

บทภาวนาที่ 2

ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีอา....

โอ้ พระเยซูเจ้า ผู้เป็นความอิสระแท้จริงของทวยเทพเทวา เป็นความยินดีแห่งสวรรค์ ขอโปรดระลึกถึงความทุกข์โศกที่พระองค์ได้รับจากศัตรู โหดร้ายเหมือนสัตว์ป่าห้อมล้อมพระองค์ และโดยการด่าทอนับพันๆ ครั้ง การถ่มน้ำลายรด การทุบตี การฉีกบาดแผล และการทรมานอีกหลายอย่างที่ไม่มีใครที่ไหนได้ทุกข์ทรมานอย่างพระองค์

โดยการใคร่ครวญถึงความโหดร้าย และวาจาด่าทอสามหาวของเขา          ลูกขอวิงวอนพระองค์ผู้เป็น พระมหาไถ่ของโลก ให้มาปลดปล่อยลูกจากเงื้อมมือของศัตรู ทั้งที่มองเห็นได้และเห็นไม่ได้ และภายใต้การคุ้มกันของพระองค์ โปรดนำลูกไปยังความครบครันและความ


 

บทภาวนาที่ 3

ข้าแต่พระบิดา...วันทามารีอา...

ข้าแต่พระเยซูเจ้า   พระผู้สร้างฟ้าและดิน พระองค์ไม่บังคับหรือจำกัดขอบเขต แต่โอบอุ้มทุกอย่างไว้ภายใต้ฤทธิ์อำนาจอันน่ารักของพระองค์

ขอโปรดคิดถึงเส้นทางอันขมขื่นที่พระองค์ได้รับ เมื่อพวกยิวตอกตะปูตรึงพระหัตถ์และพระบาทของพระองค์กับไม้กางเขน กระหน่ำลงไปอย่างโหดร้ายเพื่อสะใจความอำมหิตของตน ทั้งยังจับพระองค์นอนขึงพืดบนกางเขน  ดึงทางโน้น ดันทางนี้ตามใจชอบ ทำให้โครงกระดูก และข้อต่อต้องเคลื่อนจากที่หลายแห่ง

ข้าพเจ้าอ้อนวอนพระองค์ โดยระลึกถึงการทรมานอันน่ารักและเปี่ยมด้วยเมตตาของพระองค์ โปรดให้ข้าพเจ้ายำเกรงและรักพระองค์เสมอเถิด อาแมน


 

บทภาวนาที่ 4

ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีอา...

ข้าแต่พระเยซู     ผู้เป็นหมอวิเศษแห่งสวรรค์ ขอโปรดยกเอาบาดแผลของข้าพเจ้า   มารับการรักษาจากบาดแผลของพระองค์ ขอโปรดระถึงความปวดร้าวและความฟกช้ำที่พระองค์ได้รับ ตลอดจนความอ่อนเพลียจนไม่มีความทรมานใดเสมอเหมือน นับแต่ศีรษะจรดฝ่าเท้า ไม่มีจุดใดในพระวรกายของพระองค์ที่ไม่เจ็บป่วยทรมานเลยกระนั้นก็ดี  โดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของตน พระองค์กลับภาวนาวอนขอพระบิดาให้อภัยศัตรูว่า “ข้าแต่พระบิดาเจ้า โปรดให้อภัยเขาด้วยเพราะเขาไม่ทราบว่าตนกำลังทำอะไรลงไป”

โดยความกรุณาและการระลึกถึงมหาทรมานของพระองค์ ขอให้การระลึกถึงสิ่งเหล่านั้นชวนเราให้เป็นทุกข์ถึงบาป และได้รับการอภัยบาปของเราทั้งหมดด้วยเถิดพระเจ้าข้า อาแมน


 

บทภาวนาที่ 5

ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีอา...

ข้าแต่พระเยซูเจ้าให้เป็นกระจกเงาแห่งความรุ่งเรืองนิรันดร   โปรดทรงระลึกถึงความโทมนัสที่พระองค์ได้รับ โดยญาณทิพย์แห่งพระเทวภาพ พระองค์ทรงมองเห็นคนที่จะถูกช่วยให้รอด   โดยผลแห่งการทรมานอันศักดิ์สิทธิ์นั้น แต่ในขณะเดียวกัน พระองค์จะมองเห็นหลายคนต้องพินาศไปเพราะบาปของตน และพระองค์ได้บ่นอย่างขมขื่น สำหรับคนที่ต้องสูญเสียไปตลอดนิรันดร และคนบาปที่อับลาภเหล่านั้น

โดยความปรานีและพระทัยดีที่พระองค์เคยแสดงต่อโจรกลับใจ และตรัสว่า  “วันนี้เธอจะอยู่กับเราในสวรรค์” ขอพระองค์ทรงเมตตาต่อข้าพเจ้า ในยามที่ต้องถึงแก่ความตายด้วยเถิดพระเจ้าข้า อาแมน


 

บทภาวนาที่ 6

ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีอา....

ข้าแต่พระเยซูผู้เป็นราชาที่น่ารักและน่านบนอบที่สุด โปรดระลึกถึงความเสนียดปวดร้าวในใจที่พระองค์ได้รับเมื่อถูกเปลือยกายประจานบนกางเขน     เหมือนอาชญากรคนหนึ่ง พระองค์ถูกตรึงและถูกยกขึ้นบนกางเขน เมื่อญาติมิตรและลูกศิษย์ทิ้งพระองค์ไว้แต่ผู้เดียวเว้นแต่พระแม่มารีย ์ ซึ่งยืนอยู่แทบเชิงกางเขน เมื่อพระองค์จวนจะสิ้นลมปราณอยู่นั้น พระองค์ กล่าวเป็นคำที่แสนอาวรณ์เป็นครั้งสุดท้ายว่า“สตรีเอ๋ยนี้แหละลูกของท่าน” และพูดกับยวงว่า “ลูกเอ๋ยนี่แหละแม่ของเธอ”

ข้าแต่องค์พระมหาไถ่ โดยปลายหอกแห่งความเศร้าโศกทิ่มแทงดวงวิญญาณของพระมารดาของพระองค์ โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าในความทุกข์ยากลำบากทั้งกายและใจ โปรดบรรเทาและให้คำแนะนำในอุปสรรคนานาและเมื่อใกล้จะตาย อาแมน


 

บทภาวนาที่ 7

ข้าแต่พระบิดา...วันทามารีอา...

ข้าแต่พระเยซูเจ้า ผู้เป็นธารทิพย์แห่งความเมตตา   ซึ่งโดยความรักอันสุดซึ้ง ได้ตรัสจากกางเขนว่า “ฉันกระหาย” ทั้งนี้เพราะพระองค์กระหายความรอดของมนุษย์เหลือล้น ข้าพเจ้าวอนขอพระองค์ได้โปรดเผาดวงใจข้าพเจ้าให้เร่าร้อน มุ่งหาความครบครันในทุกกิจการและขอโปรดสดับไฟตัณหาซึ่งลุกไหม้อยู่ในเนื้อหนังของข้าพเจ้าและโปรดทำลายความกระหายฝ่ายโลกีย์เสียให้สิ้นเถิด อาแมน


 

บทภาวนาที่ 8

ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีอา....

ข้าแต่พระเยซูผู้มีพระทัยอ่อนหวาน เป็นความชื่นบานของดวงใจ      โดยความขมของน้ำส้มผสมน้ำดีซึ่งพระองค์ได้แตะลิ้น  บนกางเขนเพราะรักเรา ขอโปรดให้เราสมที่จะรับพระกายและพระโลหิตอันประเสริฐของพระองค์ในชีวิตนี้และเมื่อจะตาย เพื่อศีลนี้จะได้เป็นการบรรเทาและโอสถรักษาวิญญาณด้วยเถิด อาแมน


 

บทภาวนาที่ 9

ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีอา...

ข้าแต่พระเยซูเจ้า ต้นธารแห่งฤทธิ์กุศลทั้งปวง ความหรรษาของดวงใจ โปรดระลึกถึงความเจ็บปวดที่พระองค์ได้รับขณะที่ถูกถมทับด้วยความขมขื่นระทมใจเมื่อใกล้จะสิ้นใจ ถูกด่าว่าร้าย ถูกทุรจารจากพวกยิว พระองค์กล่าวตัดพ้อพระบิดาว่า “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงทรงลืมลูกเสียแล้ว”

ข้าแต่องค์พระมหาไถ่ของข้าพเจ้า โดยความทุรนทุรายใจนี้ ขอพระองค์อย่าทอดทิ้งข้าพเจ้า ในความหวาดกลัวเจ็บปวดในเวลาใกล้จะตายด้วย อาแมน

 

บทภาวนาที่ 10

ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีอา...

ข้าแต่พระเยซูเจ้าผู้เป็นเบื้องต้นและปลายทางของทุกสิ่ง เป็นชีวิตและฤทธิ์กุศล    ขอโปรดจำไว้ว่า พระองค์ได้จมอยู่ในทะเลแห่งความทุกข์ระทมนับแต่ปลายเท้าจนถึงพระเศียรที่ถูกคลุมด้วยมงกุฎ ในการพิจารณาถึงบาดแผลอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ขอโปรดสอนข้าพเจ้า โดยความรักอันบริสุทธิ์ในการถือตามพระบัญญัติ ซึ่งเป็นดังหนทางอันกว้างใหญ่และง่าย ๆ สำหรับผู้ที่รักพระองค์ด้วย อาแมน


 

บทภาวนาที่ 11

ข้าแต่พระบิดา...วันทามารีอา...

ข้าแต่พระเยซูเจ้า ผู้เป็นมหาสมุทรสุดไพศาลแห่งความเมตตา ข้าพเจ้าวอนขอพระองค์ โดยการระลึกถึงรอยแผลต่าง ๆ ซึ่งเจาะไชลงไปถึงเยื่อกระดูกและส่วนลึกแห่งชีวิตของพระองค์ ขอโปรดฉุดลากข้าพเจ้าผู้เป็นคนบาปน่าสงสาร มีความผิดต่าง ๆ เต็มตัว โปรดลากข้าพเจ้าออกจากบาปและซ่อนตัวข้าพเจ้าจากพระพักตร์อันโกรธกริ้วของพระองค์ จนกว่าพระพิโรธและความไม่พอพระทัยของพระองค์จะอันตรธานหายไป อาแมน


 

บทภาวนาที่ 12

ข้าแต่พระบิดา...วันทามารีอา...

ข้าแต่พระเยซูเจ้า ผู้เป็นกระจกเงาแห่งความจริง สัญลักษณ์แห่งเอกภาพ สายสัมพันธ์แห่งความเมตตา โปรดคิดถึงบาดแผลมากมายซึ่งพระองค์ได้รับตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ฉีกขาด และแดงฉานไปด้วยพระโลหิตอันประเสริฐของพระองค์ ในความเจ็บปวดอันมหาศาลและสาหัสที่พระองค์ได้รับทนบนพระกายอันบริสุทธิ์เพราะความรักต่อเรา โอ้พระเยซูผู้อ่อนหวานยิ่ง มีอะไรอีกเล่าที่พระองค์อยากจะทำเพื่อเราแล้วไม่ได้ทำ ขอให้ผลานิสงส์แห่งการทรมานนี้ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในวิญญาณของข้าพเจ้าโดยการคิดถึงมหาทรมานของพระองค์ และขอให้ความรักต่อพระองค์เพิ่มพูนในใจข้าพเจ้าทุกวัน จนกว่าจะได้เห็นพระองค์ในนิรันดร์กาล พระองค์ผู้ทรงเป็นขุมทรัพย์ ความดีและความสุขทุกประการ ซึ่งข้าพเจ้าขอพระองค์ประทานให้ในสวรรค์  โอ้พระองค์ผู้ใจอ่อนหวาน อาแมน

 

บทภาวนาที่ 13

ข้าแต่พระบิดา...วันทามารีอา...

โอ้พระเยซูผู้เป็นดังพญาราชสีแกร่งกล้า ราชาผู้อมตะและอยุทธนา ขอโปรดระลึกถึงความเจ็บปวดที่พระองค์ได้รับทน เมื่อทั้งทางพระกายและจิตใจหมดสิ้นไปแล้ว พระองค์ได้เอนพระเศียรลงกล่าวว่า “สำเร็จบริบูรณ์แล้ว”

โดยอาศัยความเศร้าใจนี้ ข้าพเจ้าวิงวอนขอพระองค์ได้โปรดกรุณาข้าพเจ้าในเวลาจวนจะตาย ซึ่งเป็นเวลาที่จิตใจจะว้าวุ่นมากที่สุด และวิญญาณข้าพเจ้าจะกระสับกระส่ายเป็นห่วงกังวลเต็มที่ อาแมน


 

บทภาวนาที่ 14

ข้าแต่พระบิดา... วันทามารีอา...

โอ้พระเยซูเจ้า   พระบุตรแต่องค์เดียวของพระบิดา     เป็นความรุ่งโรจน์และฉายาลักษณ์ของพระบิดา ขอโปรดระลึกถึงคำเตือนที่สุภาพและซื่อ ๆ ของพระองค์ พระองค์ได้ถวายวิญญาณของพระองค์แก่พระบิดาเจ้า โดยพูดว่า “ข้าแต่พระบิดาเจ้า ลูกขอมอบชีวิตและวิญญาณของลูกไว้พระหัตถ์ของพระองค์ด้วย” แล้วโดยพระวรกายที่ฉีกขาดและหัวใจที่ถูกแทงและพระอุระที่เต็มไปด้วยความเมตตาเปิดกว้างออกเพื่อไถ่เรา  พระองค์ก็หมดลมหายใจ

โดยความตายอันประเสริฐนี้   ข้าพเจ้าขอวอนพระองค์ผู้เป็นจอมราชาแห่งนักบุญทั้งหลาย โปรดให้กำลังใจและช่วยข้าพเจ้าให้ต่อต้านความชั่ว เนื้อหนังและโลก เพื่อว่าโดยการตายต่อโลก ข้าพเจ้าจะได้มีชีวิตเพื่อพระองค์ผู้เดียว ข้าพเจ้าอ้อนวอนขอพระองค์ให้มารับข้าพเจ้าเมื่อใกล้จะตาย จะได้เป็นดังคนเดินทางและคนเนรเทศที่กลับมาหาพระองค์ อาแมน


 

บทภาวนาที่ 15

ข้าแต่พระบิดา....วันทามารีอา...

โอ้พระเยซูเจ้า ผู้เป็นเถาองุ่นแท้และมีผลอุดม โปรดระลึกถึงพระธารโลหิต ซึ่งหลั่งออกมาจากพระวรกายของพระองค์ เหมือนน้ำองุ่นจากผลองุ่น

จากสีข้างของพระองค์ซึ่งถูกแทงด้วยหอกของทหาร โลหิตและน้ำไหลพุ่งออกมาจนไม่เหลือในพระวรกายแม้เพียงหยดเดียว แล้วก็เหมือนพุ่มดอกไม้หอมถูกยกขึ้นสู่ยอดกางเขน  พระกายอันบริสุทธิ์ของพระองค์ถูกทำลาย  ธาตุแห่งพระกายของพระองค์ก็แห้งเหี่ยวลง เยื่ออ่อนของกระดูกแห้งเหือดไปเช่นกัน

โดยอาศัยการทรมานอันเหี้ยมโหด      และการทุ่มเทพระโลหิตอันประเสริฐของพระองค์นี้ ลูกขอวิงวอนพระองค์ โอ้พระเยซูผู้อ่อนหวาน ให้มารับวิญญาณของลูก เมื่อลูกกำลังเข้าตรีฑูตจวนจะตายด้วยเถิด อาแมน


 

บทสรุป

โอ้พระเยซูผู้อ่อนหวาน ขอโปรดทิ่มแทงดวงใจของข้าพเจ้า เพื่อน้ำตาแห่งการเป็นทุกข์ถึงบาปและความรักจะเป็นปังของข้าพเจ้าทั้งวันและคืน ขอให้ข้าพเจ้ากลับใจทั้งกลับมาหาพระองค์ ขอให้ดวงใจของข้าพเจ้าเป็นที่พักพิงของพระองค์เสมอ ขอให้การสนทนาของข้าพเจ้าเป็นที่พอพระทัยพระองค์ และขอให้ชีวิตของข้าพเจ้าคู่ควรกับการที่จะเข้าไปอยู่ในสวรรค์กับเทพนิกรและนักบุญทั้งหลาย จะได้สรรเสริญพระนามของพระองค์ตลอดไป อาแมน

 


คำสัญญาแก่ผู้ที่ร้องเพลงบท อาเว มารี สแตลลา”

(วันทา ดาราสมุทร)

ระหว่างการกบฏที่กรุงโรม กลุ่มกบฏพวกหนึ่งแห่กันมาที่บ้านนักบุญบริด์จิต หัวหน้ากบฏพูดว่าจะเผาท่านนักบุญทั้งเป็น  ท่านนักบุญจึงสวดขอพระเป็นเจ้าบอกให้ทราบว่าตนควรหนีดีหรือไม่ แต่พระเยซูเจ้าบอกให้ท่านอยู่ที่นั่น

“มันไม่สำคัญอะไรที่เขาจะฆ่าเรา อำนาจของเราสกัดความชั่วของเขา พวกเขาตรึงเราบนกางเขนได้ เพราะเราอนุญาตเขา” และพระแม่มารีย์พูดต่อไปว่า “จงรวมกันเป็นกลุ่มแล้วร้องเพลง “วันทาดาราสมุทร” และเราจะช่วยเธอให้พ้นจากอันตรายทั้งปวง”

 

บทเพลงวันทาดาราสมุทร

1. วันทาดาราสมุทร      พระแม่วิสุทธิ์วิเศษศรี
    ทรงพ้นมลทินราคี     ทวารธานีเทวา

2.  โปรดรับอาเวอ้อนวอน    สุนทรแห่งเทพภาษา
    เปลี่ยนศัพท์กลับนามเอวา  สุขาชื่นชมสมปอง

3.  โปรดเปลื้องเครื่องรั้งสังขาร  บันดาลพ้นชั่วมัวหมอง
   พระคุณอุ่นอกปกครอง   สอดส่องแสงนำความดี

4.  โปรดเป็นมารดาข้าเจ้า   คอยเฝ้าวิงวอนทรงศรี
    ผู้เกิดเลิศหล้าธาตรี         จากแม่มารีเพื่อเรา

5.   ลูกเดินเชิญช่วยอวยส่ง    นำตรงตามแสงแจ้งใส
     จนพบพระองค์ทรงชัย     เนาในสวรรค์วันทา

6.   สรรเสริญพระบิดาเจ้า      เทอดเกล้าพระบุตรสุดหา
      อีกองค์พระจิตฤทธา        สามหนึ่งเดชาเดียวกัน
     อาแมน.

 

 

 

book

line mass


line mass