ความจริงคืออะไร?
บทความ, ชีวิตฝ่ายจิต, Reflection, คริสตศาสนา
ผู้ใดรับฟังความจริง ผู้นั้นก็ฟังเสียงของเรา
(ยอห์น 18: 37)
ความจริงคือสิ่งไม่ตาย แต่ผู้ที่พูดความจริงอาจจะตายได้... นี้คือสิ่งที่พระเยซูเจ้าประสบ เพราะพระองค์มาเพื่อเป็นประจักษ์พยายานแก่ความจริง แล้ว “ความจริง” ที่ว่านี้หรืออะไรกันแน่?
ความจริงของบรรดาธรรมาจารย์และฟาริสี
ธรรมจารย์และฟาริสี คือผู้สอนพระคัมภีร์และหลักธรรมทางศาสนา แต่พวกเขากลับปฏิเสธที่จะสอน “ความจริง” ให้แก่ประชาชน เพราะแม้พวกเขาจะสอน “ความจริง” แต่พวกเขากลับไม่ฟังเสียงที่อยู่ในหัวใจ เป็นเสียงที่พระเป็นเจ้าทรงเรียกร้องให้พวกเขากลับใจ กลับใจจากความเคร่งคัดทางศาสนาและธรรมประเพณี จนหลงลืมความเมตตาและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่ผู้อยากไร้และด้อยโอกาสในสังคม พวกเขาตกอยู่ในกับดักแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรีของโลก เรียกตนเองว่าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า แต่ “ความจริง” แล้วใจของพวกเขายังห่างไกลจากพระเจ้ามากนัก จนในท้ายที่สุด พวกเขาปฏิเสธและเป็นผู้ประหาร “องค์แห่งความจริง” คือพระเยซูเจ้านั่นเอง
ความจริงของของปีลาส
ปีลาสถูกส่งมาจากจักรวรรดิโรมัน เพื่อมาปกครองชาวยิว เขาจึงต้องสร้างผลงานคือการรักษาความสงบด้วยการเร่งปราบปรามพวกที่ต่อต้านจักรวรรดิ ปีลาสจึงถามพระเยซู ถามแล้วถามอีกว่า “เจ้าเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ” ปีลาสไม่ต้องการจะรู้ว่าชาวยิวจะมีกษัตริย์สักอีกองค์ หรือใครที่จะผู้นำของชาวยิว เขาเพียงต้องการจะจับผิดในคำตอบของพระเยซูว่า พระองค์ทำตนเป็นกบฏ เพื่อจะได้ประหารพระองค์ให้แล้วๆ ไป เรื่องจะได้จบๆ อย่างสงบและเพื่อให้ฝูงชนรู้สึกพอใจ ไม่มีการก่อจารจล
สิ่งนี้คือข้อเท็จจริง แต่ “ความจริง” ก็คือ พระเยซูผู้นี้เป็นผู้บริสุทธิ์ และความผิดที่พระองค์ถูกกล่าวหานั้นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรจนถึงกับต้องประหารชีวิตพระองค์
แต่สุดท้าย ปีลาสก็ล้างมือเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ และยอมให้คนประหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ผู้นี้ ท้ายที่สุดปีลาสก็ปฏิเสธ “ความจริง” ที่อยู่ในใจของเขาเอง
ความจริงของพระเยซูเจ้า
พระเยซูเจ้าทรงรู้ว่า พระองค์ต้องถูกคนใส่ร้าย ปรักปรำและพระองค์ต้องตาย นี้คือ “ความจริง” สำหรับพระองค์ และความจริงนี้คือ การทำตามน้ำพระทัยของพระบิดาสวรรค์ ด้วยเห็นนี้ พระองค์จึงได้ไถ่บาปมนุษย์ ด้วยการยอมรับชะตากรรมอันโหดร้ายนี้ และสิ่งนี้ทำให้พระองค์ทรงเป็น “หนทาง ความจริง และชีวิต” สำหรับพวกเรา
ความจริงของชาวเรา
ในความเป็นจริงของชีวิต บางทีการยอมรับ "ข้อเท็จจริง" ของชีวิตนั่น เป็นสิ่งที่โหดร้าย เพราะหลายต่อหลายครั้งเรามีประสบการณ์ของความรู้สึกที่ท้อแท้ ถูกกระทำ ถูกโกง ถูกทรยศ และถูกใส่ร้าย บางทีชีวิตดูเหมือนจะมืดมน มองไปที่ใดก็มีแต่ความมืด สำหรับบางคน เขาจะบอกว่า "ฉันถูกฝังทั้งเป็น" แต่สำหรับบางคนกลับบอกว่า "ฉันกำลังถูกเพาะปลูกอยู่" และสิ่งที่มืดมิดอยู่นี้เป็นเพียงใต้ดิน ที่สักวันหนึ่งฉันจะเติบโต เบ่งบานขึ้น และมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม และสิ่งนี้คือ "ความจริงของชีวิต" เฉกเช่นกับชีวิตของพระเยซู ที่พระองค์ต้องถูกฝังลงดิน เพื่อพระองค์จะได้ทรงเปลี่ยนแปลง ในการกลับคืนชีพ เป็นชีวิตแห่งปัสกา เป็นชีวิตแห่งนิรันดร และเราจะไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับ "ความจริง" ของชีวิตนี้เชียวหรือ?
Father M
Written by
บาทหลวง วรวุฒิ สารพันธุ์ C.Ss.R. JCL
Catholic Priest & Canonist
Author & Administrator
Faith4Thai.com
*juris canonici licentiatus
หรือ JCL เป็นปริญญาทางกฏหมายพระศาสนจักร
Email:
FaceBook: Worawut Saraphan
Iine ID: mcssrsp