Skip to main content

คำสอนเรื่องดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า

บทความ, ชีวิตฝ่ายจิต

sh

คำสอนและชีวิตฝ่ายจิต เรื่องดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า

        ในประเทศไทย มีความเชื่อและศรัทธาต่อดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้ามานานแล้ว พร้อมกับการแพร่ธรรมของบรรดาธรรมฑูตคณะมิชชั่นารีแห่งกรุงปารีส (MEP)
        นับแต่ในปี ค.ศ. 1675 ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงประจักษ์แก่นักบุญมากาเร็ต เมรี่ อะลาก๊อก ให้เราฉลองดวงพระหฤทัยนี้ 7 วัน หลังจากการฉลองพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้า (Corpus Christi) และในปี ค.ศ. 1856 เป็นต้นไป พระศาสนจักรทั่วโลกฉลองร่วมกัน
         พระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 เป็นผู้มีความศรัทธาต่อดวงพระหฤทัยนี้ พระองค์ตรัสว่า “การฉลองนี้ ทำให้เราระลึกถึงพระธรรมล้ำลึกของความรักจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อมวลมนุษย์ทุกกาลสมัย”


ความหมายของรูปดวงพระหฤทัย

 

หัวใจที่แดงสด

        หัวใจที่แดงสด เป็นหัวใจของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ พระเยซูเจ้าเป็นพระเจ้าผู้ทรงชีวิต พระองค์ทรงกลับคืนชีวิตทั้งกายและวิญญาณ ร่างกายของพระองค์ศักดิ์สิทธิ์ และหัวใจของพระองค์ก็ถูกหล่อเลี้ยงไปด้วยพระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เป็นพระกายและพระโลหิตเดียวกันกับศีลมหาสนิทที่เรารับอยู่ในทุกๆครั้งในพิธีบูชาขอบพระคุณ พระองค์ทรงปรารถนาให้เรารับพระหฤทัยของพระองค์ ในรูปแบบของแผ่นปังและเหล้าองุ่น... "นี้คือกายของเราและโลหิตของเรา ที่จะมอบเพื่อท่าน" 


 

หนามและบาดแผล

       หนามที่พันรอบหัวใจ คือมงกุฎหนามที่พันรอบบนศรีษะของพระเยซูเจ้ายามที่พระองค์ทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน พระองค์คือผู้บริสุทธิ์ แต่ด้วยพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า พระองค์ยอมตายเพื่อไถ่บาปแก่มวลมนุษย์ พระองค์จึงทรงเป็นดังลูกแกะแห่งปัสกาของพระสัญญาใหม่ พระองค์จำต้องถูกบูชายัญเพียงครั้งเดียว เพื่อไถ่บาปแก่มวลมนุษย์ทั้งปวงและทุกกาลสมัย
       หัวใจที่ถูกพันไปด้วยหนามจึงเป็นหัวใจที่ปวดร้าวและระทมทุกข์ ทุกครั้งที่เราเพ่งมองไปที่บาดแผลของพระองค์ ให้เราสำนึกถึงบาป บาปที่เราทำให้เคืองพระทัย และที่มนุษย์กระทำต่อกันในโลก

 


 

กางเขนและเปลวไฟ
        หัวใจของพระองค์ลุกเป็นไฟในยามที่ไม้กางเขนได้ถูกปักลงที่นั่น กางเขนคือเครื่องหมายของการไถ่บาปและพันธกิจ ไฟคือความร้อนแรงฝ่ายจิตวิญญาณที่จะนำข่าวดีของพระองค์ไปประกาศต่อนานาชาติ


 

คำสอนเรื่องพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า


1. การเป็นทุกข์ถึงบาป
          แม้บาปจะเข้ามาในโลกเพราะมนุษย์คนเดียวฉันใด (โดยทางอดัม) บาปก็ได้รับการไถ่กู้โดยมนุษย์คนเดียวฉันนั้น คือองค์พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์คือพระแมสซิยาห์ พระผู้ไถ่ ตามคำทำนายโดยทางประกาศกในพระธรรมเก่า และทรงเป็นการผู้เติมเต็มความสมบูรณ์ของพันธสัญญาของพระเจ้า ที่มีต่อประชากรของพระองค์
           เราจงจำต้องเพ่งมอง และรำพึงถึงข้อความเชื่อนี้ เป็นธรรมอันล้ำลึก ถึงบาปและการไถ่บาปของพระเจ้า เราจึงต้องเป็นทุกข์ถึงบาป นอกเหนือที่บาปจะนำการลงโทษมาสู่มนุษย์ บาปกลับทำให้เราเป็นที่เคืองพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเศร้าและสลดพระทัยทุกครั้งที่เห็นเราทำบาปและประทุษร้ายต่อกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา และใจ บาปทำให้วิญญาณของเราเหิ่นห่างจากพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า บาปนำมาซึ่งความเจ็บปวด ทั้งฝ่ายกายและวิญญาณ การเป็นทุกข์ถึงบาปจึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะสอนให้เรารู้จักความสุภาพถ่อมตน เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง และประพฤติปฏิบัติตนตามเสียงเรียกของพระเจ้า ให้เราเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์


2. ธรรมทูตแห่งความรัก
         กางเขนคือภาระและหน้าที่ของคริสตชนทุกคน เราต้องแบกกางเขนของตนและติดตามองค์พระเยซูเจ้า ในศีลล้างบาป เรามีส่วนร่วมในพันธกิจของพระผู้ไถ่ คือ เป็นสงฆ์ (เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์) เป็นประกาศก (เป็นผู้ประกาศและยืนยันความจริงในโลกนี้) และเป็นกษัตริย์ (เป็นผู้รับใช้พี่น้องทุกคน)
           หากไร้ซึ่งกางเขน ก็จะไม่มีไฟแห่งความรัก หากไร้ซึ่งพันธกิจและกระแสเรียก ก็จะไร้ซึ่งจิตวิญญาณแห่งชีวิตคริสตชน ความเชื่อและความศรัทธาเป็นปฐมภูมิการเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า เป็นการดีที่เราต้องหมั่นสวดภาวนา เข้าวัดเข้าวา รับศีลมหาสนิท เพื่อทะนุบำรุงความเชื่อศรัทธานี้ แต่ชีวิตคริสตชนจะสมบูรณ์เมื่อเรามีส่วนร่วมใน “พันธกิจ” ของพระศาสนจักร ซึ่งเป็นทุติยภูมิของความเชื่อ จากหัวใจสู่ภาคปฎิบัติ พันธกิจที่ว่านี้คือการออกไป ไปประกาศข่าวดีของพระเจ้า ด้วยการกระทำ เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้เป็นอาณาจักรสวรรค์ของพระเจ้า

 


3. จงสวมใส่พระหฤหทัย

         

          ในรูปพระหฤทัย หลายครั้งที่บรรดาศิลปินวางมือของพระเยซูชี้นิ้วไปที่พระหฤทัยของพระองค์ การชี้นิ้วนี้เป็นอากับกริยาเชิญชวนให้มองไปที่พระทัยของพระองค์ และพยายามเปลี่ยนแปลงหัวใจของเราให้ละม้ายคล้ายพระหฤทัยของพระองค์ เป็นหัวใจที่เป็นทุกข์ถึงบาป เป็นหัวใจที่ร้อนรนด้วยไฟแห่งความรัก เพื่อที่จะนำพันธกิจของพระองค์มาสู่ในโลกใบนี้

 


 

4. ดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ และแสงแห่งพระเมตตา

       โดยเนื้อแท้แล้ว การฉลองพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า และ การฉลองพระเมตตา เป็นสิ่งเดียวกัน เพราะทั้งสองเป็นกิจศรัทธาที่ล้วนมีความหมายถึง ดวงใจของพระเจ้า เป็นความรักของพระบิดา เป็นแสงสว่างของพระจิตเจ้า และเป็นหัวใจที่เสียสละขององค์พระบุตร

       คำสอนที่ว่า สวดพระเมตตาแล้วจะได้อย่างนู้นอย่างนี้ หรือ สวดขอพระหฤทัยแล้วจะได้ตามสัญญาอย่างนั้น ล้วนเป็นกุศโลบายที่เชิญช่วนให้เรามีความศรัทธาต่อพระรูปเหล่านี้ เราสามารถมีความเชื่อศรัทธา และอาจคาดหวังในส่งที่เราวอนขอได้ แต่อย่าให้เป็นประเด็นหลักในการสวดภาวนา มิฉะนั้นเราอาจจะตกอยู่ในหลุมพลางแห่ความเชื่อที่งมงาย ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันขอได้ ฉันถึงจะเชื่อและศรัทธาในพระรูปเหล่านั้น ถ้าขอไม่ได้ ฉันก็จะไม่เลื่อมใส เพราะโดยแท้จริงแล้ว เราอาจจะไม่ได้ในสิ่งที่เราวอนขอทุกครั้งไป

       พึงระลึกไว้ว่า พระเจ้าจะประทานในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราอยู่เสมอ ดังพ่อแม่ที่จะไม่ให้ลูกทานแต่ขนม แต่จะสอนให้ลูกรู้จักโภชนาการที่ดี และอาจจะป้อนอาหารที่เป็นประโยชน์ที่สุดให้กับลูกๆ  ในขณะที่ดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า เรียกร้องให้เรากลับใจเป็นทุกข์ถึงบาปผิด และรับไม้กางเขนแห่งไฟรักในหัวใจของเรา ส่วนพระเมตตาของพระเยซูเจ้าคือแสงสว่างที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ (แสงสีขาว) และความรัก (แสงสีแดง) ส่องสว่างในจิตใจของเรา เพื่อเราจะได้สัมผัสพระเมตตา และนำความเมตตาต่อคนอื่นๆ อีกต่อไป ทั้งสองคือหัวใจของพระเยซูเจ้าที่ปรารถนาให้เราทำตามพระประสงค์และพระกระแสเรียกในชีวิต มากกว่าการทำตามน้ำใจของตัวเราเอง


 

5. ความศรัทธาต่อดวงพระหฤทัย

        โดยส่วนตัวเอง ผู้เขียนก็ชอบที่จะสวดต่อหน้าพระรูปพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า โดยการเพ่งพิศต่อพระรูป พิจารนาหัวใจอันปวดร้าวของพระองค์ และตระหนักถึงไม้กางเขนที่ผู้เขียนเองต้องแบกรับ และมีส่วนร่วมในพันธกิจของพระองค์ สำหรับผู้เขียนแล้ว พระรูปพระหฤทัยคือรูป "ไอคอน"  ที่ถูกปั้นขึ้นมา เป็นพระรูปที่เชิญชวนให้เรารำพึงภาวนาถึงธรรมอันล้ำลึก โดยเฉพาะในเรื่องของ "บาปและความตาย" และ การแสวงหาความหมายของ "การเป็นศิษย์พระคริสต์" ว่าอะไรคือน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า อะไรอุปสรรคในชีวิต และอะไรคือความท้าทายในการ "รักเพื่อนมนุษย์" ฯลฯ

         จงหมั่นที่จะสวดภาวนาต่อพระรูปพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า จงรำพึงถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อเราและมนุษย์ทั้งปวง และจงนำประสบการณ์แห่งการภาวนานี้ เข้าสู่ภาคปฎิบัติ เพื่อเผยแพร่พระกิตติคุณของดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ด้วยการรักและรับใช้ ตามกระแสเรียกของเราแต่ละคน. 

 


 นพวารแด่ดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า

(บทภาวนาที่คุณพ่อปีโอสวดทุกๆวันต่อดวงพระหฤทัย เพื่อผู้ที่มาขอคำภาวนาจากท่าน)



ขนมปังวันอาทิตย์ Our Sunday Bread PODCAST

Father M

Father M

Written by 
บาทหลวง วรวุฒิ สารพันธุ์ C.Ss.R. JCL


Catholic Priest & Canonist
Author & Administrator
Faith4Thai.com

*juris canonici licentiatus
หรือ JCL เป็นปริญญาทางกฏหมายพระศาสนจักร

Email: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
FaceBook: Worawut Saraphan
Iine ID: mcssrsp


คำสอนเรื่องดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า

บทความที่เกี่ยวข้อง