Headline
22-25 กษัตริย์ของชาวอิสราเอล - ซาอูล-ดาวิด
22. ประชาชนต้องการกษัตริย์
ชาวอิสราเอลได้แบ่งแผ่นดินของตนเองออกเป็นสิบสองส่วน แต่ละส่วนมีแนวอาณาเขตของตนเองอย่างชัดเจน ท่านผู้เฒ่าแต่ละคนได้รับส่วนแบ่งตามจำนวนครอบครัวของตนที่มี แต่ละครอบครัวก็ได้รับส่วนแบ่งเพียงพอที่จะใช้ทำมาหากิน
แต่ละเผ่าอยู่กันอย่างเป็นอิสระ แต่ถ้าเมื่อข้าศึกมาโจมตี เขาก็จะรวมตัวกันต่อต้านศัตรู และพระเจ้าก็ได้ประทานความปลอดภัยให้กับเขา เพื่อมิให้เขาต้องตกอยู่ในอันตราย
และแล้วอิสราเอลก็เริ่มพบว่า เป็นการยากอย่างยิ่งที่จะไว้วางใจพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว และที่จะคอยให้พระองค์ประทานความปลอดภัยให้แก่พวกเขาทุกๆ ครั้งเมื่อเขาต้องการ เขาต้องการผู้นำที่ถาวร คือ กษัตริย์ ซามูเอลเป็นแต่เพียงผู้ตัดสินที่พระเจ้าส่งมา ซามูเอลได้ถามคนเหล่านั้นว่า “ท่านแน่ใจหรือว่าท่านต้องการคำนับมนุษย์? ทำงานให้กับเขา จ่ายภาษีให้แก่เขา” แต่ผู้แทนของเผ่าก็พูดว่า “เราต้องการเป็นเหมือนชนชาติอื่นๆ กษัตริย์จะบอกเราว่าอะไรผิดอะไรถูก และกษัตริย์จะต้องเป็นผู้นำในการออกสงคราม”
พระเป็นเจ้าทรงตรัสกับซามูเอลว่า “จงฟังซิว่าคนเหล่านั้นเรียกร้องอะไร? ไม่ใช่เจ้าที่เขาปฏิเสธ แต่เป็นเรา” ดังนั้นซามูเอลจึงได้เจิมซาอูลในนามของพระเจ้าให้เป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอล พระเจ้าประทานพระจิตมาเหนือเขา ซาอูลก็อาจจะยังคงเป็นกษัตริย์ที่ดี ถ้าตัวเขาเองมีความไว้วางใจพระเจ้าด้วยสิ้นสุดจิตใจ แต่ซาอูลไม่ไว้ใจคนอื่นแม้กระทั่งพระเจ้า เขาไม่มีความไว้วางใจใครทั้งสิ้น เขาได้กลายเป็นคนโศกเศร้าและสับสน พระเจ้าไม่ได้ประทับอยู่กับซาอูลต่อไปดังนั้นซาอูลจึงไม่สามารถเป็นผู้นำของชาวอิสราเอล หรือ ทำการป้องกันพวกเขาได้ต่อไป (1 ซมอ 8-15)
23. ดาวิด : คนเลี้ยงแกะจากเบธเลเฮม
ดาวิดแห่งเบธเลเฮมก็ได้กลายเป็นกษัตริย์องค์ที่สองและเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอิสราเอล พระองค์มีความไว้วางใจในพระเจ้า และพระเจ้าก็ประทับอยู่กับเขา และดังนั้นประชาชนของพระเจ้าจะไม่ลืมพระนามของกษัตริย์ดาวิดในอิสราเอลมีเรื่องเล่าหลายเรื่องเกี่ยวกับกษัตริย์ดาวิด
ดาวิดเป็นบุตรคนสุดท้องของเจสซี เขาดูแลฝูงแกะอยู่เมื่อซามูเอลมาเพื่อเจิมเขาเป็นกษัตริย์ ดาวิดเป็นคนเลี้ยงแกะที่ดีมาก เขารู้จักแกะของเขาและเขาก็รักแกะของเขา และเขาก็ไม่หนีเมื่อมีสัตว์ป่าเข้ามา ดาวิดเป็นคนกล้าหาญ ท่านไม่มีความกลัว สำหรับผู้ที่เป็นศัตรูต่อพระเจ้าและต่อประชาชนของท่าน เมื่อท่านยังทรงเยาว์อยู่ ท่านเสด็จไปเยี่ยมพี่ๆ ของท่านในค่ายในสนามรบ ที่นั่นเขาได้เห็นนักรบชาวฟิลิสเตียจากเมืองกัทร่างใหญ่และมีอำนาจมากคนหนึ่ง คือ โกลิอัทกำลังเยาะเย้ยชาวอิสราเอลและพระเจ้าของพวกเขา ไม่มีชาวอิสราเอลคนใดที่กล้าสู้รบกับเขา แต่ดาวิดพูดกับเขาว่า “เจ้าจะได้เห็นว่าพระเจ้าของอิสราเอลมีความแข็งแรงเพียงใด ดาวิดล้วงลงไปในย่าม หยิบหินขึ้นมาก้อนหนึ่งใส่สลิงเหวี่ยงไปถูกหน้าผากชาวฟิลิสเตียคนนั้น ก้อนหินเจาะหน้าผากเข้าไป เขาล้มหน้าคว่ำกับพื้นดินทำให้ข้าศึกตกใจ พวกเขาไม่ต้องการจะสู้รบกับชาวอิสราเอลต่อไป พวกเขาได้พากันวิ่งหนีอย่างอลหม่าน
ดาวิดสามารถร้องเพลงและดีดพิณได้ ในหนังสือสดดุดีมีเพลงสวดของประชากรของพระเจ้าถึงหนึ่งร้อยห้าสิบเพลงซึ่งดาวิดเคยร้องในเวลาที่เขาอาศัยอยู่ในพระราชวังของกษัตริย์ เมื่อใดที่ซาอูลอยู่ในภาวะเศร้าหมอง ดาวิดก็จะดีดพิณให้ฟังและก็จะทำให้ซาอูลกลับมามีความสุขอีก กษัตริย์ดาวิดสามารถปราบข้าศึกได้ทั้งหมดเพราะว่าพระเจ้าประทับอยู่กับพระองค์ ดังนั้น ซาอูลจึงได้แต่งตั้งเขาให้เป็นผู้บัญชาการกองทัพของท่าน และโดยเหตุนี้ดาวิดได้มีชัยชนะต่อข้าศึกนับครั้งไม่ถ้วนและเป็นที่ชื่นชมของประชาชน ซาอูลจึงเกิดอิจฉาริษยา พระองค์ต้องการจะกำจัดดาวิด เป็นเวลาหลายปีที่ดาวิดและเพื่อนๆ ของเขาต้องหลบหนีซาอูลออกไปซ่อนตัว
เมื่อฟิลิสเตียทำสงครามกับอิสราเอลอีกครั้ง กองทัพของซาอูลไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับพวกเขาได้ พระราชโอรสทั้งสามพระองค์ของซาอูลต้องเสียชีวิตที่ภูเขากิลโบอา ซาอูลเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเขาจึงฆ่าตัวตายด้วยการล้มทับดาบของตัวเอง (1 ซมอ 16-31)
24. ดาวิดกษัตริย์ในเยรูซาเล็ม
หลังจากที่ซาอูลสิ้นพระชนม์ ดาวิดก็กลายเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลเขาได้ทำสงครามมีชัยชนะต่อกรุงเยรูซาเล็มและสถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวงพระองค์ได้นำพระแท่นศักดิ์สิทธิ์แห่งพันธสัญญามายังกรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับแผ่นศิลาจารึกธรรมบัญญัติของพันธสัญญาที่ได้จารึกไว้ พระองค์ต้องการเยรูซาเล็มเป็นเมืองของพระเจ้า
ดาวิดเชื่อและไว้ใจในพระเจ้า พระองค์ต้องการที่จะซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาเมื่อท่านทำอะไรบางอย่างที่ไม่ดี ท่านจะยอมรับผิดและอ้อนวอนให้พระเจ้าให้อภัยให้กับท่าน วันหนึ่งดาวิดเรียกหานาธัน นาธันเป็นชายซึ่งพระเจ้าได้ทรงเลือกให้เป็นประกาศกผู้เผยพระวจนะ ดาวิดกล่าวกับนาธันว่า “เราอยู่ในพระราชวังที่สวยงามยิ่ง แต่ว่าพระแท่นศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่ในกระโจม เราต้องการสร้างพระวิหารของพระเจ้า”
วันรุ่งขึ้น นาธันกลับมาหาดาวิดและทูลว่า “พระเจ้าไม่ต้องการให้พระองค์สร้างพระวิหารให้พระองค์ และในทางตรงกันข้าม พระเจ้าทรงมีพระประสงค์จะสร้างราชวงศ์ให้พระองค์ เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์พระราชโอรสของพระองค์จะเป็นผู้สร้างพระวิหารให้แก่นามของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงดูแลให้ลูกหลานของเขาเป็นกษัตริย์ครองราชย์ตลอดไป คำพูดนี้ยังคงเป็นความจริงตลอดไป และดังนั้นประชากรของพระเจ้าก็จะเชื่อว่าพระผู้ไถ่ที่ยิ่งใหญ่ “พระแมสสิยาห์” ผู้ซึ่งพระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับมนุษย์จะมาจากเชื้อพระวงศ์ของดาวิด (2 ซมอ 7)
25. เพลงบทหนึ่งของดาวิด
o พระยาห์เวห์ทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าอย่างผู้เลี้ยงแกะ
ข้าพเจ้าจึงไม่ขาดสิ่งใด
o พระองค์ทรงปล่อยให้ข้าพเจ้านอนพักอยู่ในทุ่งหญ้าเขียวขจี
ทรงนำข้าพเจ้าไปริมสายนทีที่เงียบสงบ
o เพื่อฟืนฟูจิตใจของข้าพเจ้า
ทรงชี้ทางให้ข้าพเจ้าเดินไปบนมรรคาแห่งความชอบธรรม
ทรงซื่อสัตย์ต่อพระนามของพระองค์
o แม้ข้าพเจ้าจะต้องเดินไปในหุบเขาที่มืดมิด
ข้าพเจ้าก็จะไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์ทรงอยู่กับข้าพเจ้า
พระคทาและธารพระกรของพระองค์ช่วยให้ข้าพเจ้าอุ่นใจ
o พระองค์ทรงจัดเตรียมโต๊ะอาหารไว้สำหรับข้าพเจ้าต่อหน้าเหล่าศัตรู
ทรงเทน้ำมันเจิมศีรษะของข้าพเจ้า
ทรงเทเครื่องดื่มลงในถ้วยของข้าพเจ้าจนล้นปรี่
o พระกรุณาและความรักมั่นคงของพระองค์จะติดตามข้าพเจ้าไปทุกวันตลอดชีวิต ข้าพเจ้าจะพำนักอยู่ในพระเคหาของพระยาห์เวห์ตลอดไปเป็นนิจนิรันดร์
(สดด 23)
22-25 กษัตริย์ของชาวอิสราเอล - ซาอูล-ดาวิด
26-35 กษัตริย์ของชาวอิสราเอล - ซาโลมอน-กษัตริย์องค์อื่นๆ
12-21 ประกาศกโมเสส
- 01-05 พระเจ้าทรงสร้างโลก - น้ำวินาศ
- 06-08 บรรดาอัยกา - บิดาอับราฮัม
- 09-11 พระอัยกา - อิสอัค เอซาว และยาโคบ
- 12-21 ประกาศกโมเสส
- 22-25 กษัตริย์ของชาวอิสราเอล - ซาอูล-ดาวิด
- 26-35 กษัตริย์ของชาวอิสราเอล - ซาโลมอน-กษัตริย์องค์อื่นๆ
- 36-40 การล้มสลายของกรุงเยรูซาเร็ม - อพยพ - กลับสู่มาตุภูมิ
- 41 เรื่องของโยบ (ความสุข-ทุกข์ของชีวิต)
- 42 ประกาศกโยนาห์ (เสียงเรียกของพระเจ้า)
- 43-45 คำทำนายถึงพระแมสสิยาห์ (พระผู้ไถ่)
- 46-51 กำเนิดของพระแมสสิยาห์ (พระผู้ไถ่)