Skip to main content

Headline

book

62-65 อัศจรรย์ของพระเยซู

030

62. พระเยซูเจ้าทรงปลุกบุตรของหญิงม่ายที่เมืองนาอินให้กลับคืนชีพ


        หลังจากนั้นไม่นาน พระเยซูเจ้าเสด็จไปที่เมืองหนึ่งชื่อนาอิน บรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมากติดตามพระองค์ไป  เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ประตูเมืองก็ทรงเห็นคนหามศพออกมา ผู้ตายเป็นบุตรคนเดียวของมารดาซึ่งเป็นม่าย ชาวเมืองกลุ่มใหญ่มาพร้อมกับนางด้วย  เมื่อองค์พระผู้เป็นท่านทรงเห็นนางก็ทรงสงสารและตรัสกับนางว่า “อย่าร้องไห้ไปเลย”  แล้วพระองค์เสด็จเข้าไปใกล้ ทรงแตะแคร่หามศพ คนหามก็หยุด พระองค์จึงตรัสว่า “หนุ่มเอ๋ย เราบอกท่านว่า จงลุกขึ้นเถิด”  คนตายก็ลุกขึ้นนั่งและเริ่มพูด พระเยซูเจ้าจึงทรงมอบเขาให้แก่มารดา  ทุกคนต่างมีความกลัวและถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า กล่าวว่า “ประกาศกยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นในหมู่เรา พระเจ้าได้เสด็จมาเยี่ยมประชากรของพระองค์”  และข่าวเรื่องนี้ก็แพร่ไปทั่วแคว้นยูเดียและทั่วอาณาบริเวณนั้น

 

63. ท่านกลัวทำไม?


       เย็นวันหนึ่ง พระเยซูเจ้าตรัสสั่งบรรดาศิษย์ว่า "เราจงข้ามไปทะเลสาบฝั่งโน้นกันเถิด" บรรดาศิษย์จึงละประชาชนไว้ และออกเรือที่พระองค์ประทับอยู่นั้นไป มีเรือลำอื่น ๆ ติดตามไปด้วย ขณะนั้นเกิดพายุแรงกล้า คลื่นซัดเข้าเรือจนน้ำเกือบจะเต็มเรืออยู่แล้ว พระองค์บรรทมหลับหนุนหมอนอยู่ที่ท้ายเรือ บรรดาศิษย์จึงปลุกพระองค์ ทูลถามว่า “พระอาจารย์ พระองค์ไม่สนพระทัยที่พวกเรากำลังจะตายอยู่แล้วหรือ” พระองค์จึงทรงลุกขึ้น บังคับลม ตรัสสั่งทะเลว่า “เงียบซิ จงสงบลงเถิด” ลมก็หยุด ท้องทะเลราบเรียบอย่างยิ่ง แล้วพระองค์ตรัสถามเขาว่า “ตกใจกลัวเช่นนี้ทำไม ท่านยังไม่มีความเชื่อหรือ” เขาเหล่านั้นกลัวมาก พูดกันว่า “ท่านผู้นี้เป็นใครหนอ ลมและทะเลจึงยอมเชื่อฟังเช่นนี้”

 

64. ทรงเลี้ยงคนหิวโหย

031
       พระเยซูเจ้าต้องการอยู่ตามลำพังกับสาวกของพระองค์    แต่ฝูงชนก็ติดตามพระองค์ไปตลอดเวลา พระเยซูเจ้าตรัสกับฝูงชนเกี่ยวกับชีวิตที่พระเจ้าประทานให้ พระองค์ได้ทำการรักษาผู้ซึ่งต้องการให้พระองค์ช่วยเหลือทุกคน    ในตอนเย็นวันนั้นอัครสาวกทั้งสิบสองคนของพระองค์ก็ทูลกับพระองค์ว่า ”ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนกลับไปเถิด เขาจะได้ไปตามหมู่บ้านและชนบทโดยรอบเพื่อหาที่พักและอาหาร เพราะขณะนี้เราอยู่ในที่เปลี่ยว”  พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรนอกจากขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวเท่านั้น หรือว่าเราจะไปซื้ออาหารสำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด”  ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน พระองค์จึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า ”จงบอกให้พวกเขานั่งลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณห้าสิบคน”  เขาก็ทำตามและให้ทุกคนนั่งลง  พระเยซูเจ้าทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ส่งให้บรรดาศิษย์นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน  ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง (ลก 9 : 10-17)

 

65. ปังแห่งชีวิต


    คนที่ได้กินขนมปังได้กล่าวแก่กันและกันว่า “ท่านผู้นี้เป็นประกาศกแท้ ซึ่งจะต้องมาในโลก" พระเยซูเจ้าทรงทราบว่าคนเหล่านั้นจะใช้กำลังบังคับพระองค์ให้เป็นกษัตริย์ จึงเสด็จไปบนภูเขาตามลำพังอีกครั้งหนึ่ง
    วันรุ่งขึ้นพวกเขาได้มาที่เมืองคาเปอรนาอุม เพื่อหาพระองค์    เขาพบพระองค์และได้ทูลามพระองค์ว่า ”ท่านอาจารย์ ท่านมาที่นี่เมื่อไหร่?” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า ”เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าท่านแสวงหาเรา มิใช่เพราะได้เห็นเครื่องหมายอัศจรรย์แต่เพราะได้กินขนมปังจนอิ่ม    อย่าขวนขวายหาอาหารที่กินแล้วเสื่อมสลายไปแต่จงหาอาหารที่คงอยู่และนำชีวิตนิรันดรมาให้อาหารนี้บุตรแห่งมนุษย์จะประทานให้fท่านเพราะพระเจ้าพระบิดาทรงประทับตรารับรองบุตรแห่งมนุษย์ไว้แล้ว”        เขาเหล่านั้นจึงทูลว่า ”พวกเราจะต้องทำอะไรเพื่อให้กิจการของพระเจ้าสำเร็จ”  พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “กิจการของพระเจ้าก็คือให้ท่านทั้งหลายเชื่อในผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา”    พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “เราเป็น ปังแห่งชีวิตผู้ที่มาหาเราจะไม่หิวและผู้ที่เชื่อในเราจะไม่กระหายอีกเลย” (ยน 6)

 

 

book

62-65 อัศจรรย์ของพระเยซู

66-69 ความเชื่อในพระองค์

60-61 คำสอน และ บทภาวนาของพระอาจารย์