Skip to main content

book

87-91 ทรงกลับคืนชีพจากผู้ตาย

042

87. พระเยซูเจ้าถูกฝัง

    ครั้นถึงเวลาเย็น โยเซฟชาวอาริมาเธียซึ่งเป็นสมาชิกที่น่านับถือคนหนึ่งของสภาสูงiและกำลังรอคอยพระอาณาจักรของพระเจ้า กล้าเข้าไปพบปีลาต ขอพระศพของพระเยซูเจ้า  ปีลาตประหลาดใจที่พระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว จึงเรียกนายร้อยมาถามว่าพระองค์สิ้นพระชนม์นานแล้วหรือ  เมื่อรู้จากนายร้อย จึงมอบพระศพให้โยเซฟ  โยเซฟซื้อผ้าป่านมาผืนหนึ่ง  เชิญพระศพลงมา ห่อด้วยผ้าป่าน วางพระศพในคูหาที่ขุดไว้ในหิน แล้วกลิ้งก้อนหินปิดทางเข้าคูหา  มารีย์ชาวมักดาลา และมารีย์มารดาของโยเสทคอยมองดูว่าเขาวางพระศพไว้ที่ใด (มก 15 : 42-47)

 

88. สารจากทูตสวรรค์

 

    เมื่อวันสับบาโตล่วงไปแล้ว มารีย์ชาวมักดาลา มารีย์มารดาของยากอบ และนางสะโลเม ซื้อเครื่องหอมเพื่อชโลมพระศพของพระเยซูเจ้า  เช้าตรู่ของวันต้นสัปดาห์ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว        สตรีทั้งสามคนไปยังพระคูหา และกล่าวแก่กันว่า ”ใครจะกลิ้งก้อนหินออกจากทางเข้าพระคูหาให้เรา”  แต่เมื่อมองไป ก็เห็นว่าก้อนหินนั้นถูกกลิ้งออกไปแล้ว หินก้อนนั้นใหญ่โตมาก  ครั้นเข้าไปภายในพระคูหา สตรีทั้งสามคนเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมเสื้อยาวสีขาวนั่งอยู่ด้านขวามือ ก็ตกตะลึง  ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวกับสตรีทั้งสามคนว่า “อย่ากลัวไปเลย ท่านกำลังมองหาพระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว พระองค์มิได้ประทับอยู่ที่นี่ สถานที่นี้คือสถานที่ที่เขาได้วางพระศพไว้  จงไปแจ้งบรรดาศิษย์และเปโตรให้รู้ว่า  พระองค์เสด็จล่วงหน้าท่านทั้งหลายไปในแคว้นกาลิลีแล้ว ท่านจะเห็นพระองค์ที่นั่น  ดังที่ทรงบอกท่านไว้”  สตรีทั้งสามคนออกจากพระคูหา หนีไปเพราะตกใจกลัวจนตัวสั่น และไม่ได้พูดเรื่องใด ๆ กับใครเลยเพราะกลัว (มก 16 : 1-8)

 

89. อัครสาวกสองคนพบกับพระเยซูเจ้าที่กลับเป็นขึ้นมา

043

    วันนั้น ศิษย์สองคนกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเอมมาอูส ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 11 กิโลเมตร ทั้งสองคนสนทนากันถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น  ขณะที่กำลังสนทนาและถกเถียงกันอยู่นั้น พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาร่วมเดินทางด้วย  แต่เขาจำพระองค์ไม่ได้เหมือนดวงตาถูกปิดบัง  พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านสนทนากันเรื่องอะไรตามทาง” ทั้งสองคนก็หยุดเดิน ใบหน้าเศร้าหมอง 
          ศิษย์ที่ชื่อเคลโอปัสถามว่า “ท่านเป็นเพียงคนเดียวในกรุงเยรูซาเล็มหรือที่ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นั่นเมื่อสองสามวันมานี้”  พระองค์ตรัสถามว่า “เรื่องอะไรกัน”  เขาตอบว่า “ก็เรื่องพระเยซู ชาวนาซาเร็ธประกาศกทรงอำนาจในกิจการและคำพูดเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าและต่อหน้าประชาชนทั้งปวง  บรรดาหัวหน้าสมณะและผู้นำของเรามอบพระองค์ให้ต้องโทษประหารชีวิต และตรึงพระองค์บนไม้กางเขน  เราเคยหวังไว้ว่าพระองค์จะทรงปลดปล่อยอิสราเอลให้เป็นอิสระ แต่นี่เป็นวันที่สามแล้วตั้งแต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น  สตรีบางคนในกลุ่มของเราทำให้เราประหลาดใจอย่างยิ่ง เขาไปที่พระคูหาตั้งแต่เช้าตรู่  เมื่อไม่พบพระศพ เขากลับมาเล่าว่าได้เห็นนิมิตของทูตสวรรค์ซึ่งพูดว่า พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่  บางคนในกลุ่มของเราไปที่พระคูหา และพบทุกอย่างดังที่บรรดาสตรีเล่าให้ฟัง แต่ไม่เห็นพระองค์”
          พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านคนเขลาเอ๋ย ใจของท่านช่างเชื่องช้าที่จะเชื่อข้อความที่บรรดาประกาศกกล่าวไว้ พระคริสตท่านจำเป็นต้องทนทรมานเช่นนี้เพื่อจะเข้าไปรับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์มิใช่หรือ?” แล้วพระองค์ทรงอธิบายพระคัมภีร์ทุกข้อที่กล่าวถึงพระองค์ให้เขาฟังโดยเริ่มตั้งแต่โมเสสจนถึงบรรดาประกาศก
          เมื่อพระองค์ทรงพระดำเนินพร้อมกับศิษย์ทั้งสองคนใกล้จะถึงหมู่บ้านที่เขาตั้งใจจะไป พระองค์ทรงทำท่าว่าจะทรงพระดำเนินเลยไป  แต่เขาทั้งสองรบเร้าพระองค์ว่า “จงพักอยู่กับพวกเราเถิด เพราะใกล้ค่ำและวันก็ล่วงไปมากแล้ว” พระองค์จึงเสด็จเข้าไปพักกับเขา  ขณะประทับที่โต๊ะกับเขา พระองค์ทรงหยิบขนมปัง ทรงถวายพระพร ทรงบิขนมปังและยื่นให้เขา  เขาก็ตาสว่างและจำพระองค์ได้ แต่พระองค์หายไปจากสายตาของเขา  ศิษย์ทั้งสองจึงพูดกันว่า “ใจของเราไม่ได้เร่าร้อนเป็นไฟอยู่ภายในหรือเมื่อพระองค์ตรัสกับเราขณะเดินทาง และอธิบายพระคัมภีร์ให้เราฟัง”

    เขาทั้งสองคนจึงรีบออกเดินทางกลับไปกรุงเยรูซาเล็มในเวลานั้น พบบรรดาอัครสาวกสิบเอ็ดคนกำลังชุมนุมกันอยู่กับศิษย์อื่น ๆ  เขาเหล่านี้บอกว่า “องค์พระผู้เป็นท่านทรงกลับคืนพระชนม์ชีพแล้วจริง ๆ และทรงสำแดงพระองค์แก่ซีโมน” ศิษย์ทั้งสองคนจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตามทางและเล่าว่าตนจำพระองค์ได้เมื่อทรงบิขนมปัง (ลก 24 : 13-35)

 

90. พบพระองค์ที่เยรูซาเล็ม

    พวกสาวกประชุมกันอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มโดยประตูห้องปิดอยู่เพราะกลัวชาวยิว พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาประทับยืนอยู่ตรงกลาง ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด”  ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงให้บรรดาศิษย์ดูพระหัตถ์และด้านข้างพระวรกาย เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นองค์พระผู้เป็นท่าน ก็มีความยินดี  พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลายเถิดพระบิดาทรงส่งเรามาฉันใดเราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น”    ตรัสดังนี้แล้ว พระองค์ทรงเป่าลมเหนือเขาทั้งหลาย ตรัสว่า"จงรับพระจิตท่านเถิด    ท่านทั้งหลายอภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ได้รับการอภัยท่านทั้งหลายไม่อภัยบาปของผู้ใดบาปของผู้นั้นก็ไม่ได้รับการอภัยด้วย” (ยน 20 : 19-23)

 

91. พระเป็นเจ้าส่งคำเทศน์สอนของพระองค์ไปทั่วโลก

        บรรดาศิษย์ทั้งสิบเอ็ดคนได้ไปยังแคว้นกาลิลี ถึงภูเขาที่พระเยซูเจ้าทรงกำหนดไว้  เมื่อเขาเห็นพระองค์ ก็กราบนมัสการ แต่บางคนยังสงสัยอยู่ 
       พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้ ตรัสแก่เขาเหล่านั้นว่า ”พระเจ้าทรงมอบอำนาจอาชญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินให้แก่เรา    เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต  จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน  แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ” (มธ 28 : 16-20)

 

book

87-91 ทรงกลับคืนชีพจากผู้ตาย

◀️ 92-93 รับพระจิตเจ้า

78-86 ปัสกาของพระเยซูเจ้า ▶️