สิริมงคลแห่งแม่พระ (Series)
04-02 อำนาจของแม่พระยิ่งใหญ่ในเวลาถูกประจญ
แม่พระมิใช่เป็นแต่เพียงราชินีแห่งสวรรค์ และ ของบรรดานักบุญเท่านั้น แต่พระนางยังเป็นราชินีแห่งนรกและจิตชั่วร้ายทั้งหลายด้วย เหตุผลก็คือว่า พระนางได้เอาชนะมันเพราะฤทธิ์กุศลของพระนางในเวลาแรกเริ่มของโลก เมื่อพระเป็นเจ้าได้ประกาศว่าจะมีหญิงผู้หนึ่งเข้ามาในโลกเพื่อเอาชนะปีศาจ พระองค์ประกาศให้จิตชั่วช้านั้นรู้ว่า ราชินีของเราผู้นี้จะเอาชนะมันและปกครองมันอย่างไร “เราจะให้เจ้ากับผู้หญิงนั้นเป็นศัตรูกัน... นางจะขยี้หัวเจ้า”
ใครอีกเล่าคือผู้หญิงผู้นี้ซึ่งเป็นศัตรู ของปีศาจนอกไปจากพระแม่มารีอาผู้เหยียดหยามและชนะมันโดยสิ้นเชิง? โดยอาศัยความสุภาพอันอ่อนหวานและชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพระนาง นักบุญซีปรีอาโนกล่าวว่า “พระมารดาของพระสวามีเยซูคริสตเจ้าก็คือผู้หญิงที่พระองค์ได้สัญญาไว้นั่นเอง” แล้วท่านนักบุญกล่าวต่อไปว่า “พระเป็นเจ้ามิได้ตรัสว่า “เราให้ทั้งสองเป็นศัตรูกัน” แต่พระองค์ตรัสว่า “เราจะให้ทั้งสองเป็นศัตรูกัน” เพื่อแสดงให้เห็นว่าคู่ปรปักษ์ของปีศาจนั้นมิใช่เอวาซึ่งยังมีชีวิตอยู่ในขณะนั้น แต่จะเป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเอวา นักบุญวินเซนต์ เฟเรอร์ตั้งข้อสังเกตว่า “ผู้หญิงนี้จะนำพรมาให้แก่บิดามารดาเดิม ของเรามากกว่าที่ท่านได้สูญเสียไปเพราะบาปเสียอีก”
ดังนั้นพระแม่มารีอาก็คือหญิงผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญผู้นี้ซึ่งได้เอาชนะปีศาจและขยี้หัวของมัน โดยทำลายความหยิ่งจองหองของมัน ดังที่พระเป็นเจ้าได้ทรงทำนายไว้ “นางจะขยี้หัวเจ้า” ในภาษากรีกนั้นเขาใช้คำว่า “เขาจะขยี้หัวเจ้า” เพราะฉะนั้นบางคนจึงไม่แน่ใจว่าคำนี้หมายถึงแม่พระหรือพระเยซูเจ้า แต่ในภาษาลาตินซึ่งสั่งคายนาสากลแห่งเมืองเทรนท์ได้รับรอง ใช้คำว่า “นาง” แทน “เขา” และนี่ก็เป็นความเห็นของนักบุญอ้มโบรซีโอ นักบุญเยโรม, นักบุญเอากูสตีโน นักบุญยวงครีซ้อสโตโม และท่านอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ถึงกระนั้น ก็ยังเป็นสิ่งที่แน่นอนว่า ถ้ามิใช่บุตรที่ได้ชัยชนะลูซีแฟร์โดยอาศัยพระมารดา ก็เป็นพระมารดาที่ได้ชัยชนะโดยอำนาจของพระบุตร และนี่เองเป็นเหตุให้นักบุญเบอร์นาร์โดกล่าวว่า เจ้าจิตจองหองนี้ถูกเหยียบย่ำโดยพระนางพรหมจารีแม้ว่าตัวมันเองจะไม่ยอม เหมือนทาสที่ถูกจับตัวให้ไปในสงคราม มันถูกบังคับให้นบนอบต่อคำสั่งของราชินีของมัน
นักบุญบรูโนกล่าวว่า เอวาเป็นผู้ก่อให้เกิดความตายเพราะเธอปล่อยให้ปีศาจเอาชนะ แต่แม่พระชดใช้ชีวิตให้แก่เราโดยการเอาชนะปีศาจ “ในตัวเอวานั้นมีแต่ความมืดมนและความตาย ส่วนในแม่พระนั้นมีชีวิตและความสว่าง เอวาพ่ยแพ้ปีศาจ แม่พระได้ชัยชนะและผูกมัดปีศาจไว้ ถูกแล้ว แม่พระผูกมัดมันไว้จนกระทั่งมันไม่อาจจะขยับตัวเพื่อทำร้ายผู้ที่มีความศรัทาต่อพระนางได้เลย
ริชาร์ดแห่งนักบุญเลาเรนซีโอได้อธิบายคำในหนังสือพระธรรมสุภาษิตไว้อย่างสวยงาม คำนั้นมีอยู่ว่า “หัวใจของสามีเธอไว้ใจในเธอ และเขาจะไม่ต้องการสิ่งที่ตกหล่น” ท่านกล่าวว่า “หัวใจของสามีเธอกล่าวคือ ดวงหทัยของพระคริสตเจ้าไว้ใจใน แม่พระ แล้วพระองค์ก็ไม่ต้องการของตกหล่นเป็นจำยวนมากจากปีศาจไปถวายพระองค์ คอร์เนลีอู้สแห่งลาพีเดกล่าวว่า “พระเป็นเจ้าได้มอบดวงหทัยของพระเยซูเจ้าไว้ในมือของพระแม่เพื่อพระนางจะได้เอาชนะความรักของมนุษย์มาถวายแด่พระหฤทัย เช่นนี้แล้วพระองค์ได้รับวิญญาณเป็นจำนวนมาก เพราะแม่พระได้นำให้ผู้ที่พระนางดึงมาจากนรก และให้รอดพ้นจากปีศาจด้วยความช่วยเหลือที่มีอำนาจของพระนาง มาถวายแด่พระองค์เป็นจำนวนมากมาย
เรารู้ว่า (ในสมัยโบราณนั้น) ใบลานเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ดังนั้นพระราชินีของเราจึงถูกวางไว้บนบัลลังก์อันสูงส่งให้ผู้ยิ่งใหญ่ฝ่ายโลกทุกคนได้มองเห็นคล้ายกับใบลาน ซึ่งแสดงถึงชัยชนะ สำหรับทุกคนที่เข้ามาพึ่งอาศัยพระนาง “เราถูกเทิดทูนคล้ายกับต้นใบลานในคาเด้ส” กล่าวคือ “เพื่อป้องกัน” ตามที่ท่านนักบุญอัลแบร์โตมักโยได้เสริมไว้ ดังนั้นดูเหมือนว่าแม่พระจะพูดกับเราว่า “ลูกรัก เมื่อศัตรูมาโจมตีลูก จงหันมาหาแม่เพื่อขอความปกป้องแล้ว ลูกจงแน่ใจไว้เถิดว่าชัยชนะจะเป็นของลูก”
ดังนั้นการเขาไปพึ่งอาศัยแม่พระนั้นจึงเป็นหนทางที่แน่นอนในอันที่จะเอาชนะกาโจมตีของนรก ตามคำของนักบุญเบอร์นาร์ดินแห่งซีเอนานั้น แม่พระเป็นราชินีแห่งนรกและปีศาจด้วยพระนางคือผู้ที่ชนะและปราบมัน เพราะเหตุนี้แหละพระนางจึงได้รับชื่อว่าเป็นศัตรู ร้ายแรง ต่ออำนาจนรก “ร้ายแรงคล้ายกับกองทัพที่เตรียมโจมตี” พระแม่มารีอารู้จักใช้อำนาจของพระนาง กล่าวคือ ความเมตตาและคำภาวนาของพระนางทำให้ศัตรูอับอายขายหน้า แต่กลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เรียกให้พระนางป้องกันตนในเมื่อถูกประจญล่อลวง
แม่พระกล่าวว่า โดยใช้คำของพระจิตเจ้าว่า “เราได้ผลิตกลิ่นหอมคล้ายกับองุ่น” เมื่อพูดถึงคำประโยคนี้ นักบุญเบอร์นาร์โดกล่าวว่า “เขากล่าวกันว่าสัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษมักจะออกห่างจากต้นอง่นที่กำลังออกดอก” ในทำนองเดียวกัน ปีศาจในนรกย่อมตีตัวออกห่างจากวิญญาณซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นไอหอมหวานของการมี ได้ชื่อว่า “สูงสิ่งเสมือนไม้ซีดาร์แห่งเลบานอน” ที่เป็นเช่นนี้มิใช่เพราะแม่พระเพียงแต่รอดพ้นจากบาป เหมือนกับต้นซีดาร์ซึ่งไม่ผุเสียเท่านั้น แต่เพราะแม่พระขับไล่ปีศาจด้วยอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ของพระนาง เหมือนกับต้นซีดาร์ที่ขับไล่สัตว์เลื้อยคลานเพราะกลิ่นหอมหวานของมัน นี่คือความคิดเห็นของท่านคาร์ดินัลฮูโก
ในประเทศยูเดวนั้น ชัยชนะของชาวยิวขึ้นอยู่กับหีบที่บรรจุพระบัญญัติ ด้วยวิธีนี้แหละที่โมอีแซ้สได้ชัยชนะศัตรูของท่าน ตามที่เราได้พบในหนังสือ “จำนวน” ในพระคัมภีร์ “พอหีพระบัญญัติเคลื่อนที่ออก โมอีแซ้สก็จะกล่าวว่า “ลุกขึ้นเถิดพระสวามีเจ้าเพื่อศัตรูของพระองค์จะได้แตกกระจายไปและผู้ที่เกลียดพระองค์จะวิ่งหนีไปต่อยพระพักตร์พระองค์” เมืองเยรีโกและพวกฟีลิสตีนก็พ่ายแก้ในทำนองเดียวกัน “เพราะหีบพระบัญญัติของพระเป็นเจ้าอยู่ที่นั่นในวันนั้นพร้อมกับลูกหลานของอิสราแอล” เรารู้ว่า หีบพระบัญญัตินั้นเป็นสัญลักษณ์ของแม่พระตามี่คอร์เนลีอู้สแห่งลาพีเดได้กล่าวไว้ว่า “หีบพรบัญญัติที่บรรจุอาหารทิพย์คือพระคริสตเจ้านั้น ก็คือแม่พระผู้ประทานชัยชนะเหนือมนุษย์และปีศาจ” นักบุญเบอร์นาดีนแห่งซีเอนากล่าวว่า เมื่อแม่พระซึ่งเปรียบเหมือนหีบพระบัญญัติในพระธรรมใหมูถูกยกให้สูงขึ้น และได้รับเกียรติเป็นราชินีแห่งสวรรค์อำนาจของนรกเหนือมนุษยชาติก็อ่อนแอและแตกสลายไปสิ้น
พวกปีศาจในนรกสั่นสะท้านเพียงใดเมื่อคิดถึงแม่พระ ดังที่นักบุญโบนาเวนตูราได้กล่าวไว้ ท่าน่นักบุญองค์นี้เปรียบเทียบศัตรูเหล่านี้กับเหล่าศัตรูที่มหาบุรุษโย้บได้กล่าวถึง “มันบุกเข้าไปในบ้านในความมืด ตอนกลางวันมันก็ซ่อนตัว พวกมันไม่รู้จักความสว่างเลย” เวลาค่ำคืนมืดมิดนั่นแหละเป็นเวลาที่โจรเข้าไปปล้นบ้าน เมื่อแสงสว่างเริ่มปรากฏขึ้นมันก็รีบหนีไปคล้ายกับมันได้เห็นภาพแห่งความตาย นักบุญโบนาเวนตูรากล่าวว่า “ดังนี้แหละที่ปีศาจเข้าในวิญญาณซึ่งมืดมิดไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการ เมื่อยามรุ่งมาถึงกล่าวคือ หรรษทานแห่ง่ความเมตตาของแม่พระ มันก็จะวิ่งหนีเหมือนผู้ที่กำลังหนีจากความตาย บุญลาภแก่ผู้ที่เรียกหานามของแม่พระในการสู้รบกับปีศาจแห่งนรก
สำหรับการพิสูจน์ในเรื่องนี้ เรายังมีการไขแสดงซึ่งนักบุญบริยิดเป็นผู้ได้รับซึ่งเผยให้เราเห็นว่า พระเป็นเจ้าทรงโปรดให้แม่พระมีอำนาจมากมายในการต่อสู้กับปีศาจ จนกระทั่งมันจะหวั่นกลัว และหนีไปทันทีที่วิญญาณนั้นเรียกหาแม่พระเมือตนถูกโจมตี มันจะยอมหนีและกลับไปรับโทษอีกสักสองเท่าดีกว่าที่จะเห็นตัวของมันตกอยู่ภายใต้อำนาจของแม่พระ
คอร์เนลีอู้สแห่งลาพีเดรำพึงถึงคำที่พระสวามีเจ้าทรงใช้คำสรรเสริญคู่ร่วมวิญญาณของพระองค์ โดยเรียกเธอว่าเป็นดอกซ่อนกลิ่น “เหมือนดอกซ่อนกลิ่นในท่ามกลางกอหนาม ที่รักของเราก็เป็นเช่นเดียวกันในบรรดาหญิงทั้งหลาย” ท่านนักเขียนผู้นี้กล่าวว่า ประสพการณ์ในอดีตได้สอนเราว่า การเรียกหาแม่พระในเมื่อถูกประจญล่อลวงนั้นเป็นยาขนานเอก โดยเฉพาะเพื่อต่อสู้กับตัณหา เหมือนกับดอกซ่อนกลิ่นซึ่งเป็นเมือนยาแก้พิษงู หรือพิษชนิดอื่น
นักบุญยวงดามาซีมักจะกล่าวว่า “ข้าแต่พระมารดาพระเป็นเจ้า ลูกจะบรรลุถึงความรอดถ้าลูกทำให้ความไว้ใจในพระแม่มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ ลูกจะสู้รบและเอาชนะด้วยความคุ้มครองและความช่วยเหลืออันแข็งแกร่งของพระแม่ แทนที่จะใช้อาวุธอย่างอื่น”และทุกคนที่มีโชคดีได้มีความศรัทธาต่อราชินีผู้ยิ่งใหญ่นี้ ก็อาจจะพูดได้ในทำนองเดียวกัน ข้าแต่พระมารดาพระเป็นเจ้า ลูกไว้ใจในพระแม่แล้ว และลูกจะไม่พ่ายแพ้เป็นแน่ เมื่อมีพระแม่เป็นผู้ปกป้องกันอยู่แล้วลูกจะเอาชนะศัตรูของลูก ลูกจะต่อต้านมันด้วยโล่ห์แห่งความปกครองอันแข็งแรงของพระแม่ แล้วลูกก็ชนะมัน ท่านฤษียาโกเบ นักปราชญ์ชาวกรีกผู้หนึ่ง ได้พูดกับพระเยซูเจ้าถึงแม่พระว่า “พระสวามีเจ้าข้าพระองค์ได้ประทานอาวุธซึ่งกำลังของพวกศัตรู มิอาจจะเอาชนะได้ในตัวของแม่พระ พระนางคือเครื่องหมายแห่งการมีชัยชนะ ซึ่งไม่มีผู้ใดจะเอาไปจากเราได้”
ในพระคัมภีร์เก่าเราอ่านพบว่า พระเป็นเจ้าทรงนำประชาชนของพระองค์จากประเทศอิยิปต์ ไปยังดินแดนที่พระองค์ได้สัญญาไว้ “โดยอาศัยกลุ่มเมฆในตอนกลางวัน และโดยอาศัยดวงไฟใหญ่ในตอนกลางคืน” ริชาร์ดแห่งนักบุญเลาเร็นซีโอกล่าวว่า กลุ่มเมฆและไฟนี้คือสัญลักษณ์พาดพิงมาถึงแม่พระ เพราะพระนางกระทำหน้าที่สองอย่างนี้อยู่เสมอเพื่อความรอดของเรา ในฐานะที่เป็นเมฆพระนางป้องกันเราให้พ้นจากความร้อนแรงแห่งพระยุติธรรมของพระเป็นเจ้า ในฐานะที่เป็นไฟพระนางป้องกันเราให้พ้นจากปีศาจ นักบุญโบนาเวนตูราเสริมว่า ขี้ผึ้งย่อมละลายเมื่ออยู่ใกล้ไฟฉันใด ปีศาจก็หมดอำนาจที่จะทำร้ายวิญญาณที่เรียกหาแม่พระฉันนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาพยายามเลียนแบบของพระนาง
ปีศาจตัวสั่นเมื่อได้ยินนามของแม่พระ นักบุญเบอร์นาร์โดประกาศว่า พอได้ยินนามของแม่พระ ทุกคนก็จะคุกเข่า และปีศาจไม่เพียงแต่กลัวเท่านั้น แต่ถึงกับสั่นไปทั้งตัวเมื่อได้ยินนาม่ของแม่พระเท่านั้นเอง โทมัสอาเคมบีสก็เห็นด้วย ท่านกล่าวว่า ในทำนองเดียวกันกับมนุษย์หกล้มลงบนพื้นดิน เมื่อฟ้าผ่าใกล้ ๆ ตน ปีศาจก็เช่นเดียว มันสั่นไปด้วยความกลัวเมื่อได้ยินนามของแม่พระ ชัยชนะซึ่งผู้ที่มีความศรัทธาต่อแม่พระได้รับ โดยการออกชื่อของพระนางนั้นมีอยู่มากมายจนนับไม่ถ้วน นี่คือวิธีที่นักบุญอันโตนีแห่งปาดัวไล่การประจญของปีศาจ ท่านบุญราศีเฮนรี่ซูโซ และผู้ที่มีความศรัทธาต่อ แม่พระอีกมากมายก็ได้กระทำเช่นเดียวกัน
เราอ่านพบในประวัติมิสซังที่ในประเทศญี่ปุ่นว่า มีคริสตังค์คนหนึ่งซึ่งถูกปีศาจหลอกหลอนภายใต้รูปของสัตว์ดุร้ายหลายชนิด แต่เขาพูดกับมันอย่างอาจหาญว่า “ลำพังตัวข้าเอง ข้ำไม่มีอาวุธอะไรที่จะทให้เจ้ากลัว ถ้าพระเป็นเจ้าทรงโปรดแล้ว เจ้าก็จงทำกับข้าตามใจชอบเถิด แต่ในขณะนี้ข้าจะป้องกันตัวเองด้วยพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้และแม่พระมารีอา” ยังไม่ทันที่เขาจะกล่าวนามนี้จบ แผ่นดินก็เปิดขึ้น และเจ้าจิดชั่วร้ายก็ทุ่มตัวลงไปในนั้นพร้อมกับส่งเสียงร้องอย่างน่าหวาดเสียว
นักบุญอันแซลโมกล่าวเน้นว่า ตัวท่านเองได้รู้และเคยได้ยินได้เห็นถึงเรื่องของคนเป็นจำนวนมากที่เรียกหานามของแม่พระ ในเมื่อถูกการประจญล่อลวง และได้พ้นจากการประจญทันที นักบุญโบนาเวนตูราอุทานออกมาว่า “ข้าแต่พระแม่มารีอา นามของพระแม่ช่างรุ่งเรือง และน่าประหลาดใจนัก ผู้ที่ยึดมั่นในนามนี้ไม่ต้องหวาดกลัวในเมื่อตนจวนจะสิ้นใจ เพราะเมื่อปีศาจได้ยินนามของแม่พระแล้วมันจะปล่อยวิญญาณนั้นไว้เฉย ๆ ไม่รบกวนอีกต่อไป แล้วท่านเสริมต่อไปว่า “ไม่มีศัตรูหมู่ใดในโลกนี้ที่กลัวกองทัพของข้าศึก มากไปกว่าความกลัวของปีศาจที่มีต่อนามและการคุ้มครองของแม่พระ” นักบุญเยอร์มานู้สกล่าวว่า “เมื่อผู้รับใช้เพียงแต่เรียกนามของพระแม่เท่านั้น พระแม่ก็ช่วยให้เขาพ้นจากการโจมตีของนรกทันที”
จะนับว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพียงใด ถ้าคริสตังค์ทุกคนคิดถึงการเรียกหานามของแม่พระด้วยความไว้ใจ ในเมื่อตนถูกประจญล่อลวง เขาไม่ทำบาปอย่างแน่นอน ดังนี้ท่านนักบุญราศีแอลันจึงได้กล่าวไว้ว่า “พอได้ยินเสียงคำว่า ‘วันทามารีอา’ ปีศาจก็จะวิ่งหนีและนรกจะสั่นสะเทือน” แม่พระได้ไขแสดงแก่นักบุญบริยิดว่าปีศาจจะวิ่งหนีทันทีที่มันได้ยินนามของแม่พระ แม้ว่ามันจะอยู่กับคนบาปที่ถูกทอดทิ้งมากที่สุด มันจะหนีไปจากผู้ที่ห่างไกลจากพระเป็นเจ้าเป็นที่สุด หรือผู้ที่อยู่ภายใต้อำนาจของมันมากที่สุด ถ้าหากว่าคนบาปเหล่านี้มีความปราถนาแท้จริงที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตน แต่ในขณะเดียวแม่พระก็ได้เสริมว่า “ถ้าคนบาปไม่เป็นทุกข์ถึงบาปและไม่ตั้งใจจะกลับใจ ปีศาจก็จะกลับเข้ามาสิงสู่อยู่ใน่ตัวเขาต่อไปอีกทันที”
- ตัวอย่าง -
ที่เมืองไรเชอร์สเบอร์กในบาวาเรีย มีนักบวชคนหนึ่งชื่ออาร์นอลด์ ผู้มีความศรัทธาต่อแม่พระเป็นอันมาก เมื่อท่านจวนจะสิ้นใจอยู่นั้น ท่านได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์และได้เรียกเพื่อนนักบวชด้วยกันมาหาท่าน และวแนขออย่าให้เขาละทิ้งท่านในเวลาที่ท่านพูดกับเพื่อนนักบวชด้วยเสียงอันสั้นว่า “ท่านมองเห็นปีศาจพวกนั้นไหม? มันกำลังมาลากผมไปนรก?” แล้วท่านก็ร้องออกมาด้วยเสียงอันดังว่า “พี่น้อง โปรดเรียกพระแม่ให้ช่วยผมด้วย ผมแน่ใจว่าพระนางจะช่วยให้ผมมีชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้”
พวกนักบวชก็พากันสวดบทเร้าวิงวอนแม่พระ เมื่อมาถึง คำว่า สันตะมารีอา ช่วยวิงวอนเทอญ ผู้ที่กำลังจะสิ้นใจก็พูดว่า “จงเอ่ยนามของแม่พระอีก ผมกำลังถูกตัดสินแล้ว” พอหยุดไปได้สักครู่ท่านก็เสริมว่า “ถูกแล้ว ข้าพเจ้าได้ทำ แต่ข้าพเจ้าได้ทำการใช้โทษบาปแล้ว” แล้วท่านก็หันหน้าไปยังแม่พระพลางสวดว่า “โอ้พระแม่เจ้า ถ้าพระแม่ช่วย ลูกก็จะผ่านพ้นไปได้”
พวกปีศาจก็เริ่มการโจมตีใหม่ แต่ท่านป้องกันตัวด้วยสำคัญมหากางเขนและเรียกหานามของแม่พระ การต่อสู้นี้ดำเนินต่อไปตลอดคืน เมื่อถึงตอนเช้าอาร์นอลด์ก็สงบราปคาบ ท่านอุทานออกมาด้วยความดีใจว่า “พระแม่มารีอา ที่พึ่งพาอาศัยของฉัน ได้วอนขออภัยโทษให้แก่ฉันแล้ว” ท่านหันหน้าไปทางภาพปรากฏของแม่พระซึ่งเรียกให้ท่านตามพระนางไป ท่านกล่าวว่า “ลูกกำลังมาแล้ว พระแม่ ลูกกำลังมา”
ท่านพยายามลุกขึ้น แต่ร่างกายของท่านอ่อนเพลียเกินกว่าที่จะยอมตามท่านได้ และในระหว่างความพยายามที่จะลุกขึ้นนี้ ท่านก็สิ้นใจตายอย่างอ่อนหวาน เราหวังได้ว่า วิญญาณของท่านคงจะตามเสด็จแม่พระไปยังสรวงสวรรค์
- คำภาวนา -
ข้าแต่พระแม่มารีอา-ความหวังของลูก โปรดมองดูคนบาปผู้น่าสงสาร ซึ่งได้เคยเป็นทาสนรกมาหลายต่อหลาย่ครั้งแล้วเพราะความผิดของเขาเอง แต่บัดนี้ได้มากราบอยู่แทบเท้าของพระแม่ลูกทราบดีว่า การที่ลูกได้ละเลยไม่มาพึ่งพาอาศัยพระแม่นั้น ลูกได้ปล่อยให้ปีศาจเอาชนะลูก ถ้าลูกระลึกถึงและเรียกหาพระแม่แล้วลูกจะไม่ตกลงไปในบาปอย่างแน่นอน ข้าแต่พระแม่ผู้น่ารักยิ่ง ลูกเชื่อว่า ด้วยอาศัยความช่วยเหลือจากพระแม่ ลูกได้รอพ้นจากเงื้อมมือของปีศาจแล้ว และพระเป็นเจ้าก็ได้ให้อภัยแก่ลูกแล้วด้วย แต่ลูกยังตัวสั่นเมื่อคิดถึงอนาคต กลัวว่าจะถูกปีศาจมันล่ามด้วยโซ่ของบาปอีก ลูกรู้ว่าศัตรูของลูกนั้นยังมิได้เลิกล้มความตั้งใจที่จะกลับมาเอาชนะลูกอีกครั้งหนึ่ง ข้าแต่ราชินีและที่หลบภัยของลูก โปรดช่วยลูกด้วยเถิด โปรดรับลูกไว้ในความอารักขาของพระแม่ โปรดอย่าปล่อยให้ลูกเป็นทาสของปีศาจต่อไป
ลูกทราบว่าพระแม่จะช่วยลูกทุกครั้งที่ลูกเรียกหาพระแม่ และในที่สุดพระแม่จะโปรดให้ลูกมีชัยชนะ แต่ยังมีความคิดอีกข้อหนึ่งที่ทำให้ลูกกลัว คือเวลาที่ลูกถูกประจญนั้นลูกจะลืม และไม่เรียกหาพระแม่ ฉะนั้นในวันนี้ลูกจึงแสวงหาพระหรรษทานนี้จากพระแม่ พระหรรษทานที่จะระลึกและเรียกหาพระแม่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาที่ลูกถูกประจญ โปรดให้ลูกเรียกหาพระแม่บ่อยด้วยคำว่า “พระแม่มารีอา โปรดช่วยลูก พระแม่มารีอา โปรดช่วยลูกเทอญ”
ในที่สุดเมื่อวันที่ลูกจะต้องต่อสู้เป็นครั้งสุดท้ายได้มาถึงและเมื่อลูกจวนจะสิ้นใจอยู่นั้น ขอให้พระแม่โปรดช่วยลูกมากกว่าแต่ก่อนเถิด โปรดให้ลูกเรียกหาพระแม่บ่อย ๆ ถ้ามิใช่ด้วยริมฝีปากก็ด้วยดวงสใจของลูก เพื่อลูกจะได้สิ้นใจโดยมีนามอ นอ่อนหวานของพระแม่และของพระเยซูเจ้า-พระบุตรของพระแม่ ติดอยู่กับริมฝีปากของลูก เพื่อลูกจะได้ไปอวยพรและสรรเสริญพระแม่ และจะได้ไม่มีวันออกห่างจากพระแม่อีกเป็นอันขาดตลอดนิรันดร อาแมน
- 01-01 ความไว้ใจในแม่พระ
- 01-02 ควรเพิ่มความไว้ใจ ในแม่พระ
- 01-03 ความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่พระต่อเรา
- 01-04 พระแม่มารีอา คือมารดาของคนบาปที่สำนึกผิด
- 02-01 พระแม่มารีอาคือชีวิตของเรา เพราะพระนางโปรดให้เราได้รับอภัยบาป
- 02-02 พระแม่มารีอาคือชีวิตของเรา เพราะพระนางวอนขอความพากเพียรให้แก่เรา
- 02-03 แม่พระคือความอ่อนหวานของเรา
- 03-01 แม่พระคือความหวังของทุกคน
- 03-02 แม่พระคือความหวังของคนบาป
- 04-01 แม่พระช่วยเหลือผู้ที่เรียกหาพระนางโดยฉับพลัน แม่พระช่วยเหลือผู้ที่เรียกหาพระนางโดยฉับพลัน
- 04-02 อำนาจของแม่พระยิ่งใหญ่ในเวลาถูกประจญ
- 05-01 การเสนอวิงวอนของแม่พระนั้นจำเป็นสำหรับความรอดของเรา
- 05-02 แม่พระเสนอวิงวอนให้แก่คนบาปทุกคน
- 06-01 โปรดเถิดท่านผู้เสนอของเรา
- 06-02 แม่พระเสนอวิงวอนให้แก่คนบาปแม้กระทั่งคนบาปที่ชั่วช้าที่สุด
- 06-03 แม่พระคือผู้เจรจาสันติภาพระหว่างคนบาปกับพระเป็นเจ้า