ชีวิต และความอ่อนหวานของเรา

1. พระแม่มารีอาคือชีวิตของเรา เพราะพระนางโปรดให้เราได้รับอภัยบาป

 ก่อนที่เราจะเข้าใจว่า ทำไมพระศาสนจักรจึงบอกให้เราเรียกพระแม่มารีอาว่าชีวิตเรานั้น เราต้องรู้เสียก่อนว่าวิญญาณให้ชีวิตแก่ร่างกายฉันใด พระหรรษทานก็ให้ชีวิตแก่วิญญาณฉันนั้น เพราะวิญญาณที่ไม่มีพระหรรษทาน แม้ว่าจะมีชีวิต แต่ที่จริงก็ตายไปเสียแล้ว ตามคำที่กล่าวถึงใครคนหนึ่ง ในหนังสือพระธรรมวิวรณ์ได้กล่าวไว้ว่า “เจ้าได้ชื่อว่ามีชีวิต แต่ที่จริงเจ้าสิ้นใจไปนานแล้ว” ดังนั้นการที่แม่พระวอนขอพระหรรษทานให้แก่คนบาปนั้น ทำให้เขากลับมีชีวิตขึ้น

   จงพิจารณาดูซิว่า พระศาสนจักรทำให้พระนางกล่าวอย่างไร? ในการที่เอาคำของหนังสือสุภาษิตในพระคัมภีร์มาใช้กับพระนางว่า “ผู้ที่เฝ้าหาเราตั้งแต่เช้าตรู่ จะได้พบเรา” ผู้ที่ขยันมาพึ่งเราในตอนเช้า คือ อย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาสามารถ จะพบเราอย่างแน่นอน คำแปลในฉบับ “เซ็บตาอายินตา” เขาใช้คำว่า “จะพบพระหรรษทาน” แทนที่จะแปลว่า “จะพบเรา” ดังนั้นการไปพึ่งพระแม่มารีอาก็คือ การพบพระหรรษทานของพระเป็นเจ้านั่นเอง ต่อไปอีกหน่อยพระนางกล่าวว่า “ผู้ที่พบเราจะพบชีวิต และจะได้รับความรอดจากพระสวามีเจ้า” นักบุญโบนาเวนตูรา อุทานว่า “จงฟังดูเถิด ผู้ที่ปราถนาจะได้พระราชัยของพระเป็นเจ้า จงให้เกียรติแก่พระนางพรหมจารีมารีอา และท่านจะชีวิต และความรอดนิรันดร”

  นักบุญเบอร์นาดีนแห่งซีเอานากล่าวว่า ถ้าพระเป็นเจ้ามิได้ทำลายมนุษยชาติ หลังจากบาปประการแรก ก็เพราะความรักพิเศษที่พระองค์ทรงมีต่อพรหมจารีผู้ศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้เอง ซึ่งพระองค์ได้มั่นหมายให้มาเกิดในตระกูลมนุษย์ แล้วท่านนักบุญเสริมว่า ท่านไม่สงสัยเลยว่า ความเมตตากรุณาที่พระเป็นเจ้าทรงแจกจ่ายในพระธรรมเก่านั้นพระองค์แจกจ่ายไปเพราะเห็นแก่พรหมจารีผู้ศักดิ์สิทธิ์นี้เอง

  ดังนั้นนักบุญเบอร์นาร์โดทำถูกแล้ว ในเมื่อท่านเร้าใจเรา “ให้แสงหาพระหรรษทาน และแสวงหาโดยอาศัยพระแม่มารีอา” ซึ่งหมายความว่า ถ้าเรามีโชคร้ายถึงกับสูญเสียพระหรรษทานของพระเป็นเจ้าไป เราจะแสวงหาใหม่ได้โดยอาศัยแม่พระ แม้ว่าเราจะได้สูญเสียพระหรรษทานไป พระนางได้พบพระหรรษทาน ดังนั้นท่านนักบุญองค์นี้จึงเรียกพระนางว่า “ผู้นำพระหรรษทานคืนมาให้เรา” ท่านอัครเทวดาคาเบรียลได้ป่าวประกาศความจริง เพื่อเป็นที่ปลอบใจเรา เมื่อท่านคำนับพระนางว่า “อย่ากลัวเลยมารีอา ท่านได้พบพระหรรษทาน” แต่ถ้าแม่พระไม่เคยขัดสนพระหรรษทานเลยทำไมอัครเทวดาจึงกล่าวว่าพระนางได้พบพระหรรษทานเลย ทำไมอัครเทวดาจึงกล่าวว่าพระนางได้พบพระหรรษทานเล่า? เราพบก็เฉพาะแต่สิ่งที่เรามิได้มีมาก่อน แต่ท่านอัครเทวดาองค์นี้บอกแก่เราว่า แม่พระอยู่กับพระเป็นเจ้าตลอดเวลา อยู่ในศีลในพรเสมอ ยิ่งไปกว่านั้นพระนางยังเปี่ยมด้วยพระหรรษทาน “วันทาเปี่ยมด้วยหรรษทานพระสวามีสถิตกับท่าน” ในเมื่อแม่พระมิได้แสวงหาพระหรรษทานเพื่อพระนางเอง เพราะพระนางเปี่ยมด้วยหรรษทานอยู่เสมอแล้ว พระนางแสวงหาพระหรรษทานให้แก่ใครเล่า? ท่านการ์ดีนัลฮูโกตอบว่า พระนางพบพระหรรษทานเพื่อคนบาปที่ได้สูญเสียพระหรรษทานไป ท่านนักเขียนใจศรัทาผู้นี้กล่าวว่า “ดังนั้นขอให้คนบาปที่ได้สูญเสียพรพหรรษทานไปเพราะบาปของตน จงเสนอตัวแก่แม่พระเถิด แล้วเขาจะได้พบกับพระหรรษทานอย่างแน่นอน ขอให้เขาแสดงความนับถือต่อพระนางอย่างสุภาพ และกล่าวด้วยความไว้ใจว่า “พระแม่เจ้า สิ่งที่พระแม่ได้พบ พระแม่ต้องเอามาคืนแก่ผู้ที่ทำหาย ดังนั้นโปรดคืนสมบัติของเราซึ่งแม่พระได้พบ” ในเรื่องนี้ริชาร์ด แห่งนักบุญเลาเร็นซีโอ สรุปความว่า “ถ้าเราหวังที่จะได้พบกับพระหรรษทานอีกครั้งหนึ่ง เราต้องไปหาแม่พระ เพราะพระนางได้พบพระหรรษทานแล้ว และจะพบอยุ่เสมอไปในฐานะที่พระนางเคยเป็นที่โปรดปรานของพระเป็นเจ้ามาแล้ว และจะเป็นอยู่เรื่อยไป เราจึงแน่ใจได้ว่าเราจะได้พบกับพระหรรษทาน ถ้าเราพึ่งพระนาง

   ในบทสร้อยในพระคัมภีร์ แม่พระกล่าวว่า พระเป็นเจ้าได้โปรดให้พระนางมาอยู่ในโลกนี้ เพื่อเป็นผู้คุ้มครองเรา “เราคือกำแพง และอกเราเปรียบเสมือนหอ” และพระนางถูกตั้งให้เป็นผู้เจรจาสันติภาพระหว่างคนบาปกับพระผู้เป้นเจ้า “เพราะในสายตาของพระองค์ เรากลายเป็นผู้เจรจาสันติภาพ” นักบุญเบอร์นาร์โดใช้คำนี้ เป็นเครื่องให้กำลังใจแก่คนบาปว่า “จงไปหาพระมารดาผู้นี้ แสดงให้พระนางเห็นแผลซึ่งบาปของท่านทิ้งไว้ในวิญญาณของท่านเถิด แล้วพระนางจะวอนขอพระบุตรให้ยกโทษทุก ๆ ข้อ ในฐานะที่พระนางเป็นผู้เลี้ยงดูพระองค์มา” ในทำนองเดียวกันนี้เองพระศาสนจักรบอกให้เราวอนขอพระเยซูเจ้าทุก ๆ วัน ให้โปรดประทานความช่วยเหลืออันมีอำนาจของแม่พระ ให้เราพ้นจากบาป “โอ้พระเป็นเจ้าผู้เมตตาหาที่สุดมิได้ โปรดช่วยเหลือความอ่อนแอของเราเพื่อเราจะได้พ้นจากความชั่วของตัวเอง ด้วยเดชะคำเสนอวิงวอนของพระมารดาพระเป็นเจ้า ผู้ซึ่งเรารำลึกถึงด้วยเทอญ”

   ดังนั้นจึงเป็นการสมเหตุสมผลแล้วที่นักบุญเลาเร็นซีโอ ยูสตีอาโนเรียกพระนางว่า “ความหวังของคนชั่ว” เพราะพระนางเท่านั้นวอนขอการอภัยโทษจากพระเป็นเจ้า ให้แก่ผู้ที่ทำความชั่วเหมาะแล้วที่นักบุญเบอร์นาร์โดเรียกพระนางว่า “บันได้ของคนบาป” เพราะพระนางผู้เป็นราชินีที่มีความเมตตาสงสารมากที่สุด ยื่นแขนของพระนางไปยังคนบาป และดึงเขาออกมาจากเหวของบาป และช่วยให้เขาขึ้นไปยังพระเป็นเจ้า เหมาะแล้วที่นักเขียนสมัยโบราณผู้หนึ่งเรียกพระนางว่า “ความหวังแห่งเดียวของคนบาป” เพราะเราหวังที่จะได้รับการอภัยบาปของเรา ด้วยความช่วยเหลือของพระนางเท่านั้น

    นักบุญยวง ครีซ้อสโตโมกล่าวว่า “คนบาปได้รับการอภัยก็โดยอาศัยคำเสนอวิงวอนของแม่พระเท่านั้น” ดังนั้นท่านนักบุญจึงพูดแก่แม่พระในนามของคนบาปทั้งหมดว่า “วันทาพระมารดาของพระเป็นเจ้าและของเราทุกคน พระแม่คือ “สวรรค์” ซึ่งเป็นที่ประทับของพระเป็นเจ้า พระแม่คือ “บัลลังก์” ซึ่งพระเป็นเจ้าใช้เป็นที่แจกจ่ายพระหรรษทานทุกประการ ข้าแต่ธิดาผู้ทรงศีลพรหมจารีผู้ทรงศักดิ์ พระแม่คือสิริมงคลแห่งท้องฟ้าของพระศาสนจักร” โปรดช่วยวิงวอนพระเยซูเจ้า เพื่อเราจะได้พบความเมตตาโดยอาศัยพระแม่ในวันสิ้นพิภพ และรับรางวัลที่พระเป็นเจ้าเตรียมไว้ให้แก่ผู้ที่รักพระองค์”

    ในที่สุดนับว่าเป็นการเหมาะสมแล้วที่บทสร้อยในพระคัมภีร์ขนานนามพระนางว่า “แสงอรุณ” “ผู้ใดหนอ ที่เสด็จมาเหมือนตะวันรุ่งแสง” พระสันตปาปาอินโนเซนซีโอที่ ๓ กล่าวว่า “ถูกแล้วเพราะรุ่งอรุณคือการสิ้นสุดของเวลากลางคืน และการเริ่มต้นของเวลากลางวัน ฉันใดก็ฉันนั้น แม่พระซึ่งเป็นที่สิ้นสุดของความชั่วร้าย ก็เหมาะสมแล้วที่จะได้รับชื่อว่าเป็นแสงอรุณของเวลากลางวัน” เมื่อความศรัทธาต่อแม่พระเริ่มขึ้นในวิญญาณใด ความศรัทธานี้ก็จะมีผลเหมือนกับการบังเกิดของแม่พระได้บรรดาลผลให้แก่โลกเรา ความศรัทธานี้จะทำให้ความมืดมัวของบาปสูญหายไป และนำวิญญาณไปในทางแห่งฤทธิ์กุศล ดังนั้นนักบุญเยอร์มานู้ส จึงกล่าวว่า “โอ้พระมารดาพระเป็นเจ้า ความคุ้มครองของพระแม่ไม่เคยหยุดหย่อน คำวิงวอนของพระแม่คือชีวิต และความป้องกันของพระแม่ไม่เคยพลาดพลั้ง และท่านนักบุญองค์เดียวกันนี้ได้กล่าวในบทเทศน์บทหนึ่งว่า การออกนามมารีอาด้วยความรักใคร่นั้น เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าวิญญาณนั้นมีชีวิตแห่งพระหรรษทานหรืออย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่า อีกไม่นานชีวิตนั้นจะกลับคืนมาสู่วิญญาณ

    ในพระวรสารของนักบุญลูกา เราอ่านถึงคำพูดของพระแม่ที่ว่า “ตั้งแต่นี้ไป มนุษย์ทุกสมัยจะเรียกเราว่าเป็นผู้มีบุญ” นักบุญเบอร์นาร์โดอุทานออกมาว่า “ถูกแล้วพระแม่เจ้า มนุษย์ทุสมัยจะเรียกพระแม่ว่า มีบุญ เพราะพระแม่ได้ให้กำเนิดชีวิตและความรุ่งเรืองแก่มนุษย์ทุกสมัยไ เพราะเหตุนี้เองมนุษย์ทุกคนจะเรียกพระแม่ว่าผู้มีบุญ เพราะผู้รับใช้ของพระแม่นี้เองมนุษย์ทุกคนจะเรียกพระแม่ว่าผู้มีบุญ เพราะผู้รับใช้ของพระแม่ทุกคนได้รับชีวิตพระหรรษทานและความรุ่งเรืองตลอดนิรันดรโดยอาศัยพระแม่ “ในตัวพระแม่ คนบาปได้รับการอภัย และคนบุญก็จะได้รับความพากเพียรและชีวิตนิรันดร” เบอร์นาดีน เดอ บู๊สตี๊สผู้ศรัทธา กล่าวว่า “โอ้คนบาปเอ๋ย อย่าได้หมดความหวังเลย แม้ท่านจะได้ทำบาปทุกประการก็ตาม ท่านก็จงไปหาพระนางผู้เรืองนี้ด้วยความไว้ใจเถิด ท่านจะพบว่ามือของพระนางเต็มไปด้วยความเมตตาอันมากมาย แล้วท่านเสริมว่า เพราะพระนางปราถนาที่จะทำความดีให้แก่ท่านมากกว่าที่ท่านอาจจะปราถนารับความช่วยเหลือจากพระนางเสียอีก

    นักบุญแอนดรูแห่งกรีกเรียกพระแม่ว่า “สัญญาณพระเมตตาของพระเป็นเจ้า” ซึ่งหมายความว่าเมื่อคนบาปเข้ามาพึ่งแม่พระเพื่อจะได้คืนดีกับพระเป็นเจ้า พระองค์ก็ประทานความแน่ใจให้แก่คนบาปว่าตนจะได้รับการอภัย พระองค์ยังประทานสัญญาณให้แก่เราอีกด้วย คือแม่พระ พระองค์ได้ประทานพระนางให้เป็นผู้เสนอวิงวอนของเรา อาศัยคำเสนอวิงวอนของพระนาง (และเดชะพระบารมีของพระเยซูคริสตเจ้า) พระเป็นเจ้าทรงประทานอภัยโทษแก่มนุษย์ทุกคนที่มาพึ่งพระนาง นักบุญบริยิดได้ยินเทวดากล่าวว่าบรรดาคณะอัยการชื่นชมยินดีเมื่อรู้ว่าพระเป็นเจ้าจะคืนดีกับคนบาป และต้อนรับผู้ที่ได้ทำผิดต่อพระองค์อีกโดยอาศัยการถ่อมตัว และชีวิตอันบริสุทธิ์ผุดผ่องของพระแม่ โอ้พระแม่มารีอา พระนางคือดาวอันรุ่งเรือง พระเป็นเจ้าจะคืนดีกับบรรดาผู้ที่เรียกร้องพระอาชญาของพระองค์”

  ไม่ควรจะมีคนบาปคนใด ที่มาขอพึ่งคำเสนอวิงวอนของแม่พระแล้วกลับว่าจะถูกทอดทิ้ง เพราะพระนางคือมารดาแห่งความเมตตา ฉะนั้นพระนางจึงปราถนาที่จะช่วยผู้ที่น่าสมเพชที่สุดให้เอาตัวรอด นักบุญเบอร์นาร์โดกล่าวว่า “แม่พระคือสำเภาอันสะดวกสบาย ซึ่งผู้ที่มาพึ่งศัยไม่ต้องกลัวเรือแตก คือการตกนรกตลอดนิรันดร” เมื่อเวลาที่น้ำท่วมโลกแม้กระทั่งสิงห์สาราสัตว์ก็ได้รับความปลอดภัยในเรือของนอแอ ภายใต้ความคุ้มครองของแม่พระแม้กระมั่งคนบาปก็จะได้รับความรอด ครั้งหนึ่งนักบุญเกอร์ทรู้ดเห็นเสื้อคลุมแม่พระแผ่ออกไปและสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น สิงโต หมี เสือ ไปอาศัยหลบภัยอยู่ในเสื้อคลุมนั้น และเธอตั้งข้อสังเกตว่า แม่พระไม่เพียงแต่จะปฏิเสธสัตว์ป่าเหล่านี้เท่านั้น แต่พระนางกลับต้อนรับและสวมกอดมันด้วยความอ่อนหวานยิ่ง ทำให้ท่านนักบุญเข้าใจแน่ว่าคนบาปที่ถูกทอดทิ้งที่สุด และมาขอพึ่งแม่พระ ไม่เพียงแต่จะมิได้รับการปฏิเสธเท่านั้น แต่พระนางกลับต้อนรับและช่วยให้เขารอดพ้นจากความตายนิรันดรอีกด้วย ดังนั้น เราจงเข้าไปในสำเภานี้ เราจงหาที่พึ่งอยู่ในความอารักขอของพระแม่มารีอา พระนางจะปฏิเสธเราแต่จะทำให้เราบรรลุถึงความรอดอย่างแน่นอน

- ตัวอย่าง -

    คุณพ่อโบวีโอเล่าว่า มีโสเภณีคนหนึ่งชื่อแอลเลนเข้าไปในวัดและเผอิญได้ยินบทเทศน์เกี่ยวกับสายประคำ เมื่อออกจากวัดเธอก็ซื้อลูกประคำสายหนึ่ง และสวมซ่อนเอาไว้ในตัวของเธอเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว้าเธอมีสายประคำ แล้วเธอก็เริ่มสวดสายประคำแม้จะมิได้สวดอย่างศรัทธานักก็จริง แต่แม่พระก็โปรดให้วิญญาณของเธอชุ่มชื่นและอ่อนหวานตลอดเวลา จนกระทั่งเธอไม่อาจจะหยุดสวดบทวันทามารีอาได้ ในที่สุดเธอก็มีความรู้สึกเต็มไปด้วยความขยะแขยงในชีวิตอันชั่วช้าของเธอจนไม่อาจจะพักผ่อนได้เลย เธอรู้สึกว่าจำต้องไปแก้บาป เธอได้ไปแก้บาปด้วยความทุกข์อันลึกซึ้งจนกระทั่งพระสงฆ์ที่ฟังแก้บาปของเธอรู้สึกประหลาดใจ หลังจากที่แก้บาปแล้วเธอก็ไปคุกเข่าอยู่ชิงแท่นแม่พระ โมทนาคุณผู้เสนอวิงวอนของเธอแล้วก็สวดสายประคำ แม่พระพูดกับเธอมาจากรูปว่า “แอลเลน ลูกได้ทำผิดต่อพระเป็นเจ้าและเราเองมามากแล้ว จงเปลี่ยนชีวิตของลูกเถิด แล้วเราจะประทานพระหรรษทานส่วนใหญ่ของเราให้แก่ลูก” คนบาปผู้น่าสงสารนั้นเต็มไปด้วยความปั่นป่วนและตอบไปว่า “โอ้พรหมจารีผู้ศักดิ์สิทธิ์ ในเวลาที่ล่วงไป ลูกเป็นคนบาปหยาบช้าก็จริง แต่พระแม่ทำได้ทุกอย่าง โปรดช่วยลูกด้วยเถิด ส่วนตัวลูกเองจะของมอบถวายตัวแด่พระแม่ และจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตของลูกทำการพลีกรรมใช้โทษบาป” ด้วยความช่วยเหลือของแม่พระ เธอแจกจ่ายทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเธอให้แก่คนยากจน และเริ่มดำเนินชีวิตการพลีกรรมอย่างเข้มงวด เธอถูกประจญล่อลวงอย่างหนัก แต่เธอก็เสนอตัวแก่พระมารดาเป็นพระเจ้าเสมอไป และด้วยวิธีนี้เธอก็ได้ชัยชนะ เธอได้รับพระหรรษทานพิเศษหลายประการ-การประจักษ์ การไขแสดง แม้กระทั่งการทำนาย ในที่สุด ๒-๓ วันก่อนที่เธอจะสิ้นใจ แม่พระเองเป็นผู้บอกให้เธอรู้ล่วงหน้า แล้วพระนางเองเสด็จมาเยี่ยมเธอกับพระบุตรของพระนาง และเมื่อเธอสิ้นใจ มีคนเห็นวิญญาณของเธอเข้าสู่สวรรค์ในรูปร่างของนกเขา

บทภาวนา

   โอ้พระมารดาของพระเป็นเจ้า พระแม่คือความหวังหนึ่งเดียวของลูก โปรดเหลียวมาดูคนบาปยากไร้ผู้มาขอความเมตตาอยู่แทบเท้าของพระแม่ พระศาสนจักรและคริสตังค์ทุกคนป่าวประกาศและเรียกพระแม่ว่าเป็นความหวังของคนบาป ดังนั้นพระแม่จึงเป็นที่พึ่งพาอาศัยของลูก พระแม่ต้องช่วยให้ลูกเอาตัวรอด ลูกจะกล่าวกับวิลเลี่ยมแห่งปารีสว่า โอ้พระมารดาผู้อ่อนหวานของพระเป็นเจ้า พระแม่ทราบดีว่าพระโอรสผู้ทรงบุญของพระแม่ต้องการความรอดของเราเพียงใด พระแม่ทราบดีว่าพระองค์ได้ทนทุกข์ทรมานมากเพียงใด เพราะความปราถนาอันนี้ โอ้พระแม่ของลูก ลูกขอถวายความทรมานของพระเยซูเจ้า ความหนาวเย็นที่พระองค์รู้สึกในถ้ำเลี้ยงสัตว์ การเดินทางไปประเทศอียิปต์ของพระองค์ กิจการงาน ความเหน็ดเหนื่อย และพระโลหิตที่พระองค์ได้หลั่งไป ความเศร้าโศกและเจ็บปวดที่ทำให้พระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเข ซึ่งพระแม่เองเป็นผู้รู้เห็น พระแม่เจ้าข้าโปรดแสดงว่าพระแม่รักพระบุตรของพระแม่ และเพราะเห็นแก่ความรักนี้ลูกขอให้พระแม่ช่วยเหลือลูก โปรดยื่นมือของพระแม่มาช่วยคนบาปน่าสังเวชซึ่งมาขอความช่วยเหลือจากพระแม่ด้วยเถิด ถ้าลูกเป็นนักบุญ ลูกก็จะไม่ขอความเมตตาจากพระแม่ แต่เพราะลูกเป็นคนบาปลูกจึงมาหาพระแม่ผู้เป็นมารดาแห่งความเมตตา ลูกทราบว่าดวงใจอันเปี่ยมไปด้วยความสงสารของพระแม่จะชื่นชมยินดีในการช่วยเหลือผู้ที่น่าสังเวช ในเมื่อช่วยได้ และในเมื่อเขาไม่ดื้อดัน ดังนั้นโปรดประทานความชื่นชมยินดีแก่ดวงใจของพระแม่และแก่ลูกในวันนี้ด้วยเถิด เพราะในบัดนี้พระแม่มีโอกาสที่จะช่วยมนุษย์ที่น่าสงสารคนหนึ่ง ที่ถูกตัดสินให้ไปนรกแล้ว และพระแม่ช่วยได้เพราะลูกไม่ดื้อดึง ลูกมอบตัวในความอารักขาของพระแม่ เพียงแต่บอกให้ลูกทราบว่าพระแม่ต้องการให้ลูกทำอะไร และโปรดประทานกำลังให้ลูกทำตามเถิด ลูกตั้งใจแน่วแน่ว่าจะทำทุกอย่างที่ตนจะทำได้ เพื่อจะได้พบพระหรรษทานอีกครั้งหนึ่ง ลูกมาขอพึ่งอยู่ในความอารักขอของพระแม่ พระเยซูเจ้าทรงปราถนาให้ลูกมาพึ่งพระแม่ พระโลหิตของพระองค์ช่วยให้ลูกได้รอดก็จริง แต่คำภาวนาของพระแม่จะช่วยลูกในกิจการอันยิ่งใหญ่นี้ด้วย เพราะพระสิริมงคลของพระองค์และของพระแม่ด้วย เพราะพระแม่คือพระมารดาของพระองค์ พระอง์ส่งให้ลูกมาหาพระแม่ เพื่อจะได้ช่วยลูก โอ้พระแม่มารีอา บัดนี้ลูกมาพึ่งพระแม่แล้ว ลูกไว้ใจในพระแม่พระแม่สวดภาวนาให้แก่ผู้อื่นโปรดภาวนาให้ลูกด้วย บอกพระองค์เพียงแต่คำเดียวเท่านั้น บอกพระสวามีเจ้าว่าพระแม่ปราถนาความรอดของลูกแล้วพระองค์ก็จะช่วยให้ลูกรอดอย่างแน่นอน บอกว่าลูกเป็นของพระแม่ เพียงเท่านั้นลูกก็จะได้รับทุกสิ่งที่ลูกวอนขอและปราถนาแล้ว