Skip to main content

book

บุ ต ร แ ห่ ง ม นุ ษ ย์

คาลิล ยิบราน
แปลโดย มักดาเลนา

line mass
ใ น ส า ย ต า ข อ ง

จอจิอุสแห่งเบรุต

เขากับผองเพื่อนนั่งกันอยู่ใต้ร่มสนข้าง ๆ รั้วของข้านี่เอง เขากำลังพูดสอนคนอื่นอยู่

          ข้าไปยืนข้าง ๆ รั้ว ร่วมฟังเขาด้วย จึงค่อยได้รู้ว่าเขาเป็นใคร ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วแถบชายฝั่ง ก่อนที่ตัวเขาจะเดินทางมาถึงที่นี่เสียอีก

          เมื่อเขากล่าวจบ ข้าก็เข้าไปหาเขา กล่าวขึ้น “ท่านครับ ข้าขอเชิญท่านกับสหายท่านเข้ามาในชายคาของข้าเถอะ”

          เขายิ้มให้ข้า กล่าวตอบ “ไม่ใช่วันนี้หรอก เพื่อนรัก ยังไม่ใช่วันนี้”

          แล้วเขาจึงเอื้อนเอ่ยอวยพรแก่ข้า เสียงของเขาห่มหอบข้าราวกับได้ใส่เสื้อเพียงชั้นเดียวในคืนหนาว

          เขาหันไปกล่าวกับผองเพื่อน “ดูเถิด ชายคนนี้ปฏิบัติกับเรายังกับไม่ใช่คนแปลกหน้า และแม้เขาจะไม่พบเราในวันนี้ เขาก็จะเชิญเราไปยังเรือนของเขาอยู่วันยังค่ำ

          “เป็นความจริงที่ว่า ในอาณาจักรของฉันไม่มีคนแปลกหน้า ชีวิตของเราเป็นชีวิตของคนอื่น ให้เราเรียนรู้จากเขาทั้งหลาย และรักทุกคนเถิด

          “ความปรารถนาของทุกคนคือความปรารถนาของเรา ทั้งในเรื่องที่ปกปิดหรือเปิดเผย

          “ฉันขอสั่งเธอว่า อย่าได้อยู่คนเดียว แต่จงอยู่กับคนอื่น ทั้งเจ้าของบ้านและคนไร้บ้าน ชาวนาและนกกระจอกย่อมคัดเฟ้นเมล็ดพันธุ์ก่อนจะปล่อยมันร่วงลงสู่ดินมิใช่หรือ ผู้ที่ให้ควรให้ด้วยความกตัญญู ส่วนผู้รับควรรับด้วยความภาคภูมิและรู้สำนึก

          “ความงดงามของเที่ยงวันหาใช่เพียงที่เธอเห็น หากแต่เป็นสิ่งที่คนอื่นเห็น

          “เพราะสิ่งนี้แหละ ฉันจึงเลือกเธอจากบรรดามีที่คิดจะเลือกฉัน”

          จากนั้นเขาจึงหันมาหาข้า ยิ้มแย้มกล่าว “ฉันบอกสิ่งเหล่านี้แก่เธอด้วย จงจดจำไว้เถิด”

          ข้าวิงวอนเขาอีกครา  “นายท่านครับ เชิญท่านเข้าในเรือนข้าก่อนไม่ดีกว่าหรือ?”

          เขาตอบข้า “ฉันทราบถึงน้ำใจดีของเธอ ฉันจะมาเยี่ยมเรือนของเธอที่ใหญ่โตกว่านี้”

     ก่อนจาก เขากล่าวขึ้น “ราตรีสวัสดิ์ บางทีเรือนของเธออาจจะใหญ่โตเพียงพอกับประดาคนจรทั้งหมดในโลกนี้เลยทีเดียว”

จอจิอุสแห่งเบรุต

โยแซฟชาวบ้านอาริมาเทีย ในอีกสิบปีต่อมา

มารี มักดาเลน

book

jesus man

book