Skip to main content

ชีวิตฝ่ายจิต, เยซูบุตรแห่งมนุษย์

book

บุ ต ร แ ห่ ง ม นุ ษ ย์

คาลิล ยิบราน
แปลโดย มักดาเลนา

line mass
ใ น ส า ย ต า ข อ ง

ราเชล ศิษย์หญิงนางหนึ่ง

บ่อยครั้งที่ฉันสงสัยว่า พระเยซูคือมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อดังเราท่าน หรือเป็นความรู้สึกนึกคิดที่มาเยี่ยมเยือนตัวตนของมนุษย์กันแน่

          บ่อยครั้งฉันรู้สึกดังว่า เขาเป็นเพียงความฝันที่ชายหญิงทั้งหลายพร้อมเพรียงกันฝันถึงในคราวหลับสนิทนอน และเช้าวันใหม่ของพวกเขาก็สงบเงียบยิ่งกว่าเช้าไหน ๆ 

          ฉันรู้สึกว่า ในฝันนั้นเราแต่ละคนต่างเกี่ยวพันต่อกัน เราเริ่มรู้สึกว่า มันคือความจริงที่มาเพื่อลาจาก เราหาตัวตนให้กับความคิดฟุ้งซ่านนี้  หาตัวตนให้กับเสียงแห่งความปรารถนา และกำหนดคุณค่าแก่มันตามที่ใจเรานึก

          แต่อันที่จริงแล้ว เขาหาใช่ความฝันไม่  เรารู้จักเขามาสามปี เราเห็นเขาอย่างแจ่มชัดเหมือนอยู่กลางแสงแดดยามเที่ยง

          เราสัมผัสมือของเขา และติดตามเขาจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ฟังสิ่งที่เขาสอน และเป็นพยานถึงสิ่งที่เขาทำ แล้วท่านยังคิดว่า เราเพียงแต่ฟุ้งฝันไปครู่หนึ่ง หรือฝันไปเพียงตอนหนึ่งละหรือ?

      เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่คล้ายจะแปลกหน้าต่อชีวิตประจำวันของเรา แต่เนื้อหาของมันก็มาจากรากเดียวกันกับธรรมชาติของเรา แม้มันจะผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่เรื่องราวของมันจะถูกเล่าทอดสืบสาวกันไปไม่สิ้นสุดเลย

     พระเยซูแห่งนาซาเร็ธคือเหตุกาณ์ที่ยิ่งใหญ่ในตัวเองอยู่แล้ว ชายซึ่งพ่อแม่พี่น้องของเขารู้จักมักคุ้นกับเราเป็นอย่างดีคืออัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในยูเดีย ใช่แล้ว แม้เอาอัศจรรย์ที่เขาเคยทำมาวางไว้แทบเท้าของเขา มันก็ไม่ได้สูงเกินกว่าตาตุ่มของเขาเลย

          แม่น้ำทุกสายและขวบปีทั้งหลายก็ไม่อาจพรากความทรงจำที่เรามีต่อเขาไปได้

          เขาคือภูเขาที่ลุกเพลิงในยามค่ำ แต่ก็เป็นแสงมัวซัวในหมู่เนินเขา เขาคือเมฆครึ้มใหญ่บนท้องฟ้า แต่ก็เป็นหมอกเลือนรางยามกลางวัน

     เขาคือกระแสน้ำเชี่ยว ไหลจากที่สูงลงมายังที่ราบ กวาดทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่เขาก็มีเสียงหัวร่อดุจเด็ก ๆ  ทุก ๆ ปีฉันเฝ้าคอยฤดูใบไม้ผลิ เพื่อจะมาเยือนยังหุบเขาแห่งนี้ ฉันรอคอยวันที่พลับพลึงและแพงพวยจะผุดผาดขึ้น ทุก ๆ ปีวิญญาณของฉันเศร้าซึ้งอยู่ภายใน เพราะแม้ฉันปรารถนาจะชื่นชมกับฤดูใบไม้ผลิ แต่ฉันยังไม่อาจได้สัมผัสมันแม้สักครั้ง

     แต่เมื่อพระเยซูก้าวเข้ามาในชีวิตของฉัน เขาก็เป็นฤดูใบไม้ผลิ ในตัวเขามีดอกแพงพวยเบ่งบานอยู่ทั้งปี เขาเติมใจฉันด้วยความชื่นบาน และดอกต้อยติ่งด้อยค่าที่ฉันบรรจงปลูกก็เอียงอายอยู่กลางแสงสว่างของเขา

     มาบัดนี้ ฤดูอันแปรปรวนของโลกก็ไม่อาจทำให้เราลบเลือนความสง่างามของเขาไปจากโลกของเราได้

     ไม่ใช่ พระเยซูไม่ใช่เพียงภาพฝัน หรือวลีงามในบทกวี เขาเป็นมนุษย์ดังเราท่านนี่แหละ แต่เขาไม่เพียงรู้สัมผัส รู้เห็น หรือได้ยินเท่านั้น เขายังมีบางสิ่งบางอย่างที่มากกว่าพวกเรา

     เขาเห็นภาพนิมิตที่เราไม่อาจเห็น ได้ยินเสียงที่เราไม่อาจได้ยิน เขากล่าวราวจะกล่าวกับฝูงชนที่เรามองไม่เห็น และบ่อยครั้ง เขายังกล่าวดังว่าเราคือมนุษย์ที่ยังไม่ได้เกิดมาฉะนั้น

          เขารักพวกเราด้วยความรักอันอ่อนหวาน ใจของเขาเป็นดังเครื่องหีบองุ่น ที่ท่านและฉันสามารถเอาถ้วยไปรองรับ และดื่มกินจากที่นั่น

          ขณะนั้น มีอยู่ประการหนึ่งที่ฉันไม่เข้าใจในตัวพระเยซู นั่นคือ: เขาชอบพูดคุยกับชาวบ้าน เล่าเรื่องตลก เล่นผวนคำ แล้วหัวเราะเสียยกใหญ่ ทั้งที่สายตาของเขายังครุ่นคิดและน้ำเสียงก็แสนเศร้า แต่ก่อนฉันยังไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจดีแล้ว

          ฉันคิดอยู่เสมอว่า โลกเรานี้เป็นเหมือนมารดาที่กังวลกับลูกหัวปีของนาง เมื่อพระเยซูถือกำเนิดมา เขาก็เป็นลูกหัวปี และเมื่อเขาตาย เขาก็เป็นคนแรกที่ตาย

          ท่านจะไม่รับรู้ได้หรือว่า แผ่นดินยังยืนหยัดอยู่ ณ.วันศุกร์ที่มืดมนนั้น และท้องฟ้ากำลังทำสงครามปั่นปวนต่อกัน?

          ท่านจะไม่รู้สึกได้หรือไร เมื่อดวงหน้าของเขาหายไปจากคลองจักษุของเรา ประหนึ่งว่าเรากลายเป็นคนไร้ค่า ที่เหลืออยู่มีเพียงความทรงจำอันเลือนรางเท่านั้น?

ราเชล ศิษย์หญิงนางหนึ่ง

◀️ ซาโลเม กับเพื่อนหญิงของนาง 

เคลโอปัส แห่งเบธรูนี ▶️

book

jesus man

book