Skip to main content

book

บุ ต ร แ ห่ ง ม นุ ษ ย์

คาลิล ยิบราน
แปลโดย มักดาเลนา

line mass
ใ น ส า ย ต า ข อ ง

มาลาคีแห่งบาบิโลน คนดูดาว

ท่านถามข้าว่า สนใจเรื่องอัศจรรย์ของคนที่ชื่อเยซูบ้างหรือเปล่าเรอะ

          ทุก ๆ รอบหมื่นปี พระอาทิตย์ ดวงจันทร์ โลกของเรา และเหล่าดาวพี่น้องจะเรียงประจบกันเป็นเส้นตรง เพื่ออยู่ใกล้ชิดกันสักชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง

          จากนั้น พวกมันจึงค่อยละจากกันอย่างช้า ๆ และรอคอยรอบหมื่นปีข้างหน้าที่จะมาถึง

          ในฤดูกาลต่าง ๆ นั้นไม่มีอัศจรรย์อะไรเลย อาจเป็นเพราะทั้งท่านและข้ายังไม่มีความเข้าใจในฤดูกาลมากนัก แล้วฤดูกาลเหล่านี้จะเผยอะไรเป็นรูปเป็นร่างเหมือนอย่างมนุษย์ได้เล่า?

     ชายชื่อเยซูนั้นเกิดขึ้นจากส่วนประกอบระหว่างสิ่งที่จับต้องได้และความฝัน  ทั้งสองสิ่งรวมตัวกันตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ และทุกสิ่งที่ดำรงอยู่ตลอดกาลก็ได้สยบลงต่อหน้าเขา

          มีคนว่ากันว่า เขาทำให้คนตาบอดมองเห็น คนง่อยเปลี้ยเดินได้ และขับผีร้ายออกจากคนบ้า

          บางทีความมืดบอดนั้นอาจเป็นเพียงความคิดมืดมนที่ต้องใช้ปัญญาเข้าเอาชนะ แขนขาเล็กลีบอาจเป็นแต่ความคิดอ่านที่ต้องถูกกระตุ้นด้วยกำลังกาย  บางทีผีร้ายอาจเป็นส่วนที่ไม่ยอมพักผ่อนในกายเรา ซึ่งต้องใช้สันติและความสงบรำงับเข้าครอบ ครอง

          มีคนว่ากันว่า เขาปลุกคนตายให้ฟื้นคืน แต่ถ้าท่านบอกข้าได้ว่า อะไรคือตาย ข้าก็จะบอกท่านว่า อะไรคือเป็น

          ในทุ่งนา ข้ามองเห็นลูกไม้ผลหนึ่งลอยนิ่งและดูไม่มีค่าอะไรเลย แต่คราฤดูใบไม้ผลิ ข้าก็เห็นลูกไม้นั้นหยั่งรากลงดินและงอกงามขึ้น การเริ่มต้นของไม้โอ๊กก็เริ่มขึ้นจากจุดเล็ก ๆ ที่ว่านี้

          แน่ละ ท่านอาจเห็นว่านั่นก็เป็นการอัศจรรย์อย่างหนึ่ง แต่อัศจรรย์ทำนองนี้เกิดขึ้นนับพันนับหมื่นครั้งในทุกฤดูใบไม้ร่วงอันเซื่องซึม และในทุกคราใบไม้ผลิที่ชวนหลงใหล

          เรื่องดังว่านี้จะไม่เกิดในใจมนุษย์บ้างหรือ? ฤดูกาลจะไม่บรรจบพบพานในมือหรือบนริมฝีปากของชายที่ถูกเจิมคนนั้นบ้างหรือไร?

          ถ้าพระเจ้าของเรายอมให้ผืนโลกกกกอดเมล็ดพันธุ์ไว้ ทั้งที่เมล็ดพันธุ์นั้นดูเหมือนจะแห้งตายไปแล้ว ทำไมพระองค์จะไม่ให้คนหนึ่งระบายลมฆานชีวิตไปยังคนที่ตายไปแล้วบ้างเล่า?

    อัศจรรย์ที่ข้าพูดถึงนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยในบรรดาอัศ- จรรย์ใหญ่โตมากมายที่ชายคนนี้ทำ นักเดินทางผู้เปลี่ยนขี้เหล็กให้เป็นทอง ผู้สอนให้ข้ารักคนที่เกลียดชังข้า ซึ่งเมื่อข้าทำดังที่เขาว่าแล้ว ใจข้ารู้สึกเป็นสุข และความฝันอันอ่อนหวานก็มาเยี่ยมเยือนนิทรารมณ์ของข้า

          นี่คืออัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของข้าเอง

          วิญญาณข้าเคยมืดบอด วิญญาณข้าเคยง่อยเปลี้ย กายข้าเคยถูกครอบครองด้วยวิญญาณที่เหนื่อยอ่อน ข้าเคยเป็นดั่งคนตาย

          แต่เวลานี้ข้าเห็นแจ้งแล้ว ข้าเดินตรงอีกครั้ง สงบอยู่ในสันติ และมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นพยานและประกาศการดำรงอยู่ของข้าเองตลอดทุกเวลานาที

          ข้าไม่ได้เป็นผู้ติดตามของเขา ข้าเป็นแต่คนดูดาวแก่ๆ ที่ไปเยี่ยมเยียนท้องทุ่งแห่งอวกาศตามเวลา และเชื่อว่าสิ่งที่ข้าเห็นเป็นทั้งกฎธรรมชาติและอัศจรรย์ในเวลาเดียวกัน

          ข้าตกอยู่ในยามสายัณห์แห่งชีวิตเสียแล้ว และเมื่อข้าคิดจะหารุ่งอรุณของมัน ข้าก็พบในวัยเยาว์ของชายชื่อเยซูคนนั้น

          วันเวลายังเสาะค้นวัยเยาว์อยู่ตลอดกาล และข้าก็ประจักษ์แจ้งว่า ความรู้ทั้งสิ้นคือภาพฝันที่ข้าได้เห็นนั่นเอง

มาลาคีแห่งบาบิโลน คนดูดาว

บุรุษผู้มาจากทะเลทราย

นักปราชญ์ท่านหนึ่ง

book

jesus man

book