Skip to main content

book

บุ ต ร แ ห่ ง ม นุ ษ ย์

คาลิล ยิบราน
แปลโดย มักดาเลนา

line mass
ใ น ส า ย ต า ข อ ง

ยูดาส ญาติของพระเยซู

คืนหนึ่งในเดือนสิงหาคม เราอยู่กับอาจารย์ในทุ่งแห่งหนึ่งไม่ไกลจากทะเลสาบมากนัก ทุ่งแห่งนี้เรียกตามภาษาโบราณว่า ทุ่งหญ้าหัวกระโหลก

          พระเยซูเอนกายบนพื้นหญ้า เบิ่งตามองหาดาว

          เวลานั้นเอง มีสองร่างตรงเข้ามาหาเราอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง ทั้งสองดูเป็นทุกข์ พวกเขาทรุดตัวลงอ่อนโรยแทบเท้าพระเยซู

          พระเยซูยืนขึ้น เอ่ยถาม “พวกเธอมาจากไหนกัน?”

          คนหนึ่งตอบ “มาจากมาเชรีอุสครับท่าน”

          พระเยซูมองเขา ท่าทางสงสัย กล่าวถามอีก “ยอห์นเป็นอย่างไรบ้าง?”

     ชายนั้นตอบ “เขาเพิ่งถูกฆ่าวันนี้ เขาถูกตัดหัวในห้องขัง”

      พระเยซูเงยหน้าขึ้น เดินออกห่างจากพวกเราไปเล็กน้อย แล้วกลับมายืนท่ามกลางพวกเรา

          เขากล่าว “วันนี้พระราชาได้ฆ่าประกาศกของเราเสียแล้ว เป็นความจริงที่พระราชาทำตามแต่อำเภอใจของตน แม้ราชาสมัยก่อนก็มิได้รอช้าที่จะส่งศีรษะของประกาศกให้แก่หัวหน้าเพชฌฆาต 

          “ฉันไม่ได้เสียใจเรื่องของยอห์น แต่เสียใจเรื่องเฮโรดที่สั่งให้ลงดาบ ราชาที่น่าสงสาร เขาเป็นเหมือนสัตว์ที่ถูกจับมาใส่ปลอกคอและล่ามเชือก

     “พวกผู้ปกครองที่น่าสงสารกำลังหลงทางในความมืดมนของตนเอง พวกเขาจะต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่เรื่อยไป  แล้วพวกเธอเล่า พวกเธอจะได้อะไรในน้ำนิ่ง นอกจากปลาตาย?

          “ฉันไม่ได้รังเกียจพวกผู้ปกครองเลย ให้พวกเขาปกครองประชาชนต่อไปเถอะ หากพวกเขาหลักแหลมกว่าประ-ชาชน”

          อาจารย์มองไปยังใบหน้าอมทุกข์ของคนทั้งสอง และหันมามองพวกเรา พร้อมกับกล่าวขึ้นอีกครั้ง  “ยอห์นได้รับบาดแผลแล้ว เลือดไหลหลั่งออกมาพร้อมกับคำพูดของเขา เขาคือ  อิสรภาพที่ยังไม่เป็นอิสระจากตัวของมันเอง อิสรภาพชนิดนี้เพียรทนต่อคนซื่อตรงและผู้ชอบธรรมเท่านั้น

     “เป็นความจริงที่เสียงของเขาร่ำร้องในดินแดนที่ใบ้บอด แต่ฉันก็รักเขา  รักในความปวดร้าวและความโดดเดี่ยวของเขายิ่งนัก

          “ฉันรักความทระนงของเขา ที่กล้ายื่นคอให้คมดาบ ก่อนที่มันจะกลิ้งลงไปคลุกฝุ่น

           “แท้จริง ฉันขอบอกพวกเธอว่า ยอห์น บุตรเศคาริยาห์ คือคนสุดท้ายในตระกูลของเขา เขาถูกฆ่าตรงระหว่างประตูโบสถ์และพระแท่นเหมือนกับบรรพบุรุษของเขา”

          แล้วพระเยซูก็เดินออกห่างจากพวกเราไปอีก

          เมื่อกลับมา เขากล่าว “เป็นเช่นนี้ตลอดกาล ที่ราชาแห่งโมงยามจะเข่นฆ่าราชาแห่งขวบปี เขาจะกล่าวโทษและป้ายความผิดให้แก่บุรุษที่ยังไม่เกิดมา เขาจะตัดสินให้บุรุษนั้นต้องตายตั้งแต่ยังไม่ได้กระทำผิดอันใด

          “บุตรของเศคาริยาห์จะอยู่กับฉันในอาณาจักรของฉัน วันเวลาของเขาจะยืนยาว”

          เขาหันหน้าไปหาลูกศิษย์ของยอห์น และกล่าว “การกระ-ทำทุกอย่างมีวันพรุ่งนี้ของมันอยู่แล้ว ฉันจะเป็นวันพรุ่งนี้สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น กลับไปอยู่กับพวกพ้องของเพื่อนฉันเถิด บอกพวกเขาว่า ฉันอยู่กับพวกเขาเสมอ”

          แล้วทั้งสองจึงจากพวกเราไป ดูพวกเขาเบาใจกว่าเมื่อแรกเดินทางมามากนัก

          พระเยซูเอนกายบนพื้นหญ้าอีกครั้ง เขากางแขนออก และเบิ่งตามองไปยังดวงดาว

          ตอนนั้นดึกมากแล้ว ข้านอนไม่ห่างจากเขาสักเท่าไร รู้สึกง่วงเหลือกำลัง แต่มีมือหนึ่งคอยเคาะที่ประตูแห่งความหลับของข้าตลอดเวลา ข้าจึงต้องนอนลืมตาเช่นนั้นจนพระเยซูและรุ่งอรุณร้องเรียกข้าให้ออกเดินทางอีกครั้ง

ยูดาส ญาติของพระเยซู

แม่ม่ายในกาลิลี

บุรุษผู้มาจากทะเลทราย

book

jesus man

book