Skip to main content

book

บุ ต ร แ ห่ ง ม นุ ษ ย์

คาลิล ยิบราน
แปลโดย มักดาเลนา

line mass
ใ น ส า ย ต า ข อ ง

ราฟกา เจ้าสาวแห่งเมืองคานา

เรื่อง นี้เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเป็นที่รู้จักของพวกชาวบ้าน                           

          ตอนนั้นฉันกำลังเดินดูดอกกุหลาบอยู่ในสวนของคุณแม่ เห็นเขามาหยุดยืนที่ประตู

          เขากล่าวแก่ฉัน “ฉันกระหายน้ำเหลือเกิน โปรดให้ฉันดื่มจากบ่อของแม่นางจะได้ไหม?”

           ฉันวิ่งไป แล้วนำถ้วยเงินใส่น้ำมาให้เขา ฉันเหยาะกลิ่นมะลิลงไปด้วย

          เขารับไปดื่มอย่างกระหาย ดูเขาพึงพอใจ

          เขามองมาในตาของฉัน กล่าวขึ้น   “ฉันขออวยพรแก่แม่นาง”

          ขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น ฉันรู้สึกราวลมหอบหนึ่งกำลังพัดผ่านสรรพางค์กายของฉันไป และฉันไม่รู้จักขวยอายอีกเลย ฉันกล่าวแก่เขา  “ท่านคะ ฉันเป็นคู่หมั้นของหนุ่มเมืองคานาแห่งกาลิลี ฉันจะเข้าพิธีสมรสในวันที่สี่ของอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ท่านจะไม่มาร่วมงานและอวยพรแก่งานแต่งงานของฉันดอกหรือคะ?”

          เขาตอบฉัน “ฉันจะมาแน่ เด็กน้อย”

          ท่านคิดเอาเถิด เขากล่าว “เด็กน้อย” ทั้งที่เขายังหนุ่ม แน่นอย่างนั้น และฉันก็จวนเจียนจะยี่สิบปีอยู่แล้ว

          กล่าวเสร็จ เขาจึงออกเดินไปตามถนน

           ฉันยืนที่ประตูนั้น จนกระทั้งแม่ของฉันร้องเรียกให้เข้าเรือน

          แล้ววันที่สี่ของอาทิตย์นั้นก็มาถึง ฉันไปยังเรือนของเจ้าบ่าวเพื่อร่วมพิธีสมรส

          เยซูก็มาด้วย   เขามาพร้อมกับแม่ของเขาและเจมส์ น้องชาย

          พวกเขาเข้ามานั่งร่วมโต๊ะกับแขกอื่นขณะที่เพื่อนเจ้าสาวของฉันกำลังร้องเพลงมงคลของกษัตริย์ซาโลมอน เยซูทานอาหารและดื่มเหล้าองุ่นของเรา เขายิ้มแย้มให้ฉันและแขกทุกคน เขาใส่ใจกับเนื้อเพลงทุกท่อนถ้อย ดังที่มีบอกว่าชายหนุ่มกำลังนำคนรักของเขาเข้าไปในกระโจมพัก คนงานในไร่องุ่นผู้หลงรักลูกสาวเจ้าของสวน เขาพาเธอไปพำนักของในเรือนของมารดาตน และยังมีเจ้าชายผู้ผ่านมาพบหญิงขอทาน จึงแบ่ง อาณาจักรและสวมมงกุฎราชินีให้แก่เธอ

          ในขณะที่เขากำลังรื่นรมย์กับบทเพลงเหล่านั้น ฉันกลับรู้สึกคล้ายไม่ได้ยินเสียงอันใดเลย

          เมื่ออาทิตย์ลาลับ บิดาของเจ้าบ่าวเดินเข้าไปหามารดาของเยซู กระซิบบอกเธอ “เรามีเหล้าองุ่นไม่เพียงพอกับแขกเหรื่อ และงานเลี้ยงยังไม่อาจเลิกราได้”

          เยซูได้ยินดังนั้น เขาจึงกล่าว “บอกให้ผู้ที่ถือถ้วยทราบเถิดว่า เหล้าองุ่นยังมีอีกมากนัก”

          และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ แขกเหรื่อเพิ่งรู้สึกว่า พวกเขาได้ดื่มเหล้าองุ่นชนิดดีมาตลอดงาน

          ณ.เวลานั้นเยซูจึงเริ่มเอื้อนเอ่ยวาจากับเรา เขาพูดถึงความมหัศจรรย์ของสวรรค์และแผ่นดิน ดอกไม้แห่งท้องฟ้าจะเบ่งบานในยามที่ค่ำคืนปกคลุมผืนโลก และดอกไม้แห่งแผ่นดินจะเบ่งบานเมื่อกลางวันได้ซุกซ่อนดวงดาวเอาไว้

          เขาเล่าเรื่องและนิทานเปรียบเทียบให้เราฟัง น้ำเสียงของเขาสะกดพวกเราเหมือนดังต้องมนตร์ เรามองไปยังเขาราวกับเห็นภาพนิมิต  และลืมเลือนถ้วยเหล้าและจานเนื้อของตนเสียสิ้น

          ในขณะที่ฟังเขาพูด ฉันรู้สึกราวตกอยู่ในดินแดนห่างไกลที่ไม่รู้จัก

          หลังจากนั้นครู่หนึ่ง แขกคนหนึ่งเข้ามาบอกกับบิดาเจ้าบ่าว “ท่านเก็บเหล้าองุ่นชนิดดีไว้จนบัดนี้หรือ เจ้าภาพอื่น ๆ ไม่เคยทำเช่นนี้เลย”

          หลายคนเชื่อว่าเยซูได้ทำอัศจรรย์ ทำให้พวกเขามีเหล้าองุ่นชนิดที่ดีกว่าของตอนเริ่มงานเสียอีก

          ฉันคิดว่า เยซูคงเติมเหล้าองุ่นลงไป และฉันไม่ได้ประหลาดใจอันใดนัก โปรดให้เขากล่าวมาเถิด ฉันพร้อมจะรับฟังเรื่องอัศจรรย์จากปากของเขาแล้ว

          นับแต่นั้นมา น้ำเสียงของเขาได้วนเวียนรายรอบใจของฉัน แม้เวลาที่ฉันให้กำเนิดลูกชายหัวปี เสียงนั้นก็คงดังอยู่

          และจนเดี๋ยวนี้ คนในหมู่บ้านเราและหมู่บ้านข้างเคียงยังจดจำคำพูดของพวกแขกได้ดี

          พวกเขากล่าวแก่กัน “พลังของเยซูชาวนาซาเร็ธคือเหล้าองุ่นชนิดที่เก่าที่สุดและดีที่สุด”

ราฟกา เจ้าสาวแห่งเมืองคานา

โยฮันนา ภรรยาของคนเก็บภาษีในสังกัดเฮโรด

ปราชญ์เปอร์เซีย แห่งดามัสกัส

book

jesus man

book